ครั้งแห่งแรกในไทย ‘อีเดน เอสเตท’ เปิดตัวโครงการ ‘อีเดน เอกมัย Low-Rise ในสไตล์ “Ultra-luxury Low-Density” ตั้งเป้าเป็น ผู้นำ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่
หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย เปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อทั้งคนไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงหลายเดือนมานี้ มีหลายผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เปิดตัวโครงการที่เจาะ ลูกค้าตลาดลักซูรี่ หรือ ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงมาก
ล่าสุด บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จํากัด สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ของประเทศไทย เปิดตัวโครงการ “อีเดน เอกมัย” (EDEN EKKAMAI) โครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบโรว์ไรส์ (Low-Rise) กับจุดเด่นในการเป็น Ultra-Luxury Low-Density รายแรกของไทย บนทำเลใจกลางกรุงเทพฯ
โครงการ อีเดน เอกมัย ประกอบด้วยห้องชุดสุดไพรเวทเพียง 17 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนเอกมัยซอย 12 ตั้งอยู่ในอาคารสูง 7 ชั้น แบ่งเป็นห้องชุดเพื่อการอยู่อาศัย ได้แก่
ห้องดูเพล็กซ์ (Duplex) ขนาดเริ่มต้นที่ 350 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 130 ล้านบาท และห้องซิมเพล็กซ์ (Simplex) ขนาดเริ่มต้นที่ 220 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2567 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2570 ประเมินสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 49% ลูกค้าไทย 51%
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอํานวยความสะดวกที่เหนือชั้นซึ่งสะท้อนถึงสิทธิประโยชน์จากการพักอาศัยในโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย อาทิ พร้อมที่จอดรถมาตรฐานถึง 300% หรือจอดได้ห้องละ 3 คัน พร้อมอีวี ชาร์จเจอร์ ลิฟท์ส่วนตัว เล้านจ์ส่วนกลางสุดหรู ไพรเวทฟิตเนส 2 ห้อง สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ ห้องซาวน่าเกลือหิมาลัยส่วนตัว และเคาน์เตอร์ต้อนรับของโครงการพร้อมผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยดูแลและอํานวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านแบบเอ็กซ์คลูซีฟตลอด 24 ชั่วโมง
ธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จํากัด กล่าวว่า “อีเดน เอสเตท บริษัทที่จะจุดประกายสิ่งใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เรามุ่งมั่นการอนุรักษ์เส้นขอบฟ้าอันสวยงามของกรุงเทพฯ โดยการสร้างตึกระฟ้าให้น้อยลงและพัฒนาอาคารที่มีความหมายยิ่งขึ้น โดยเราเน้นการส่งมอบพื้นที่ที่รองรับการเติบโต เพราะเราเชื่อว่าบ้านควรเป็นการลงทุนที่มีการสืบทอดต่อกันไปจากรุ่นสู่รุ่น และนี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญและคำนึงถึงอย่างลึกซึ้งในกระบวนการออกแบบและพัฒนาโครงการต่างๆ”
ธัญทิพ เจียรวนนท์ ยัง กล่าวถึงเป้าหมายระยะยาวของ อีเดน เอสเตท คือ ต้องการเป็นผู้นำตลาด Ultra Luxury, Low Densityl ในประเทศไทย หมายถึง สร้างห้องที่มีพื้นที่ใหญ่ แต่จำนวนน้อย และเน้นบริการคุณภาพเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกบ้าน
โดย อีเดน เอสเตท ได้ร่วมมือกับ Noë & Associates ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ระดับลักชัวรี่ในลอนดอน เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดย อีเดน (EDEN) หมายถึง การก้าวข้ามออกจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่เน้นจำนวนห้องพักอาศัยที่หนาแน่นเกินไป โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและส่งมอบมรดกจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งที่ให้ความสําคัญกับลูกค้าในด้านคุณภาพมากกว่าปริมาณ
