ค่าไฟฟ้า ลดแล้ว ลดอีก ลดต่อ

5 ก.ย. 2566 - 10:49

  • คาดนายกฯ เศรษฐา มีตัวเลขในใจลดค่าไฟเหลือหน่วยละ 4.25 บาท

  • ก่อนหน้านี้ กกพ. มีมติลดค่าเอฟที งวดเดือนก.ย. – ธ.ค. หน่วยละ 66.89 สตางค์

Economy-Electrical-Electricity-Bills-Meter-Thailand-SPACEBAR-Thumbnail
ในวันพุธที่ 6 กันยายนนี้ จะเป็นวันแรกที่คณะรัฐมนตรีชุด เศรษฐา 1 จะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเป็นครั้งแรก หลังจากที่ถวายสัตย์ปฎิญาณเรียบร้อยแล้ว 

นอกเหนือจากการหารือถึงร่างแนวนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องเป็นการผสมผสานหลอมรวมนโยบายและแผนงานของบรรดาพรรคการเมืองทั้ง 11 เข้ามารวมเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลแล้ว อีกประเด็นคือ การหารือวาระเร่งด่วน ที่ต้องดำเนินการทันที่ที่เข้ารับตำแหน่ง ที่นายกฯ เศรษฐา เรียกว่า ควิกวิน เนื่องจากเคยลั่นวาจาประกาศไว้ในช่วงของการหาเสียง เรื่องหลักเรื่องแรก คงหนีไม่พ้นเรื่องของการ กระชากราคาพลังงานให้ลดลงแบบมีนัยยะสำคัญมากพอที่จะประกาศได้ว่าเป็นผลงานชื้นแรกที่ให้กับประชาชน  

เคาะค่าไฟฟ้าลดลงอีก 20 สตางค์ เหลือหน่วยละ 4.25 บาท 

การประกาศลดค่าไฟฟ้า คือ เรื่องแรกที่คาดว่า นายกฯ คนตัวสูง จะดำเนินการเป็นเรื่องแรก โดยคาดว่า อาจจะมีการพิจารณาลดค่าไฟฟ้าลงอีกอย่างน้อย 20 สตางค์ โดยอาจจะลดลงเหลือเพียงหน่วยละ 4.25 บาท

ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เรียกเก็บค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที สำหรับค่าไฟงวดเดือนกันยายน – ธันวาคม หน่วยละ 66.89 สตางค์ จากเดิมที่เรียกเก็บหน่วยละ 91.19 สตางค์ ซึ่งจะเมื่อมารวมกับค่าไฟฟ้าพื้นฐาน ที่หน่วยละ 3.781 บาท จะทำให้ราคาไฟฟ้าลดลงหน่วยละ 25 สตางค์ 

กกพ.เลือกแนวทางนี้ โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ หรือ กฟผ.ยอมยืดหนี้ที่ กฟผ.ยอมจ่ายให้ไปก่อน โดยขอทยอยจ่ายเป็น 5 งวด ๆ ละ 23,428 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ถึงสิ้นปีนี้ จะยังมีภาระหนี้คงเหลือที่ต้องชำระคืนให้ กฟผ. 111,869 ล้านบาท

อธิบายให้ง่ายก็คือ ก่อนหน้า รัฐบาลเศรษฐา 1 จะเข้ามา ค่าไฟฟ้าในงวด กันยายน-ธันวาคมปีนี้ก็ลดลงไปแล้ว หน่วยละ 25 สตางค์ ดังนั้นหากจะให้ได้ใจประชาชน ก็ต้องกระชากราคาไฟฟ้าลงอีก ซึ่งดูเหมือนนายกฯ เศรษฐา จะมีตัวเลขในใจไว้แล้วว่าจะลดลงมาให้เหลือหน่วยละ 4.25 บาท 

กฟผ. รับบทหนัก ‘เดอะแบก’ 

คำถามคือจะทำอย่างไรที่จะกดราคาค่าไฟฟ้าลงมาอีกหน่วยละ 20 สตางค์ แนวทางที่ดูจะง่ายและเป็นไปได้มากที่สุดที่ทำได้ทันทีก็คือ การขอร้องแกมบังคับให้ กฟผ.เล่นบท ‘เดอะแบก’ ยอมยืดหนี้ออกไปอีกไปสิ้นสุดในเดือน เม.ย. 2568  โดยอาจจะปรับเพิ่มเป็น 6 งวด ๆ ละประมาณ 19,000-20,000 ล้านบาทแทน  

แต่ กฟผ.เอง ก็ออกอาการไม่ค่อยอยากเดินตามแนวทางนี้ เพราะมีการอ้างถึงภาระที่ต้องดูแล และหวั่นจะกระทบสภาพคล่อง และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ เครดิตเรทติ้ง ที่อาจจะทำให้ กฟผ.ต้องมีภาระดอกเบี้ยสูงขึ้นในอนาคต 

ในช่วงราคาพลังงานพุ่งจากวิกฤติ รัสเซีย-ยูเครน รัฐบาลพยายามตรึงราคาไฟฟ้าไว้ ทำให้ กฟผ.ต้องแบกภาระ...ทยอยจ่ายไปแล้ว 2 งวด  

อย่างไรก็ตาม คาดว่า รัฐบาล เศรษฐา 1 คงไม่มีทางเลือก และคงต้องใช้การตัดสินใจทางการเมืองในการเคาะราคาไฟฟ้าลดงมา ที่อาจจะต้องทำให้ นายกฯ เศรษฐา ต้องตัดสินใจ ‘ทุบโต๊ะ’ ตั้งแต่วันแรกของการทำงานก็เป็นได้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4zy02q3C8aRy7XliFSujta/d479cd882d605590f78d1f5e7d8abc69/info_Economy-Electrical-Electricity-Bills-Meter-Thailand__1_

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์