พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวค่อนข้างแตกต่างกันระหว่างราคาทองคำในตลาดโลกและราคาทองคำในประเทศ เพราะถึงแม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะเคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัวลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว จากปัจจัยความกังวลราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นอย่างน่าจับตาอีกครั้ง ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระเงินเงินเฟ้อ จึงทำให้ตลาดคาดการณ์ว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะยังขยายต่อไป ส่งผลให้ตลาดทองคำได้รับผลกระทบ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตามการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในตลาดโลก ก็สามารถสร้างโอกาสให้นักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อได้ โดยมองว่าหากไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,809 -1,804 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ (ระดับต่ำสุดของเดือนมี.ค. 2023 และ ระดับต่ำสุดของเดือนก.พ. 2023 ตามลำดับ และ 1,804 ระดับต่ำสุดของปี 2023) สามารถเข้าซื้อสะสม และหากหลุด 1,804ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนะนำใช้เป็นจุดตัดขาดทุน
ส่วนของการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศนั้น ไม่ค่อยสอดคล้องกับราคาในตลาดโลกมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจนหลุด 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จึงส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศทรงตัวในระดับสูง และมีโอกาสเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อไปตามทิศทางค่าเงินบาท ส่งผลให้ช่วงนี้นักลงทุนสนใจซื้อขายทองคำในประเทศมากกว่าปกติ โดยจากต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นมาแล้ว 7.7%