เมื่อ 30 ตุลาคม 2566 ธนาคารออมสิน ได้ออกประกาศลูกค้าบัตรเครดิตออมสิน ดำเนินการปรับเพิ่มอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิต ตามใบแจ้งยอดค่าใช้จ่าย จากเดิม 5% เป็น 8% (ยอดค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 500 บาท) ตั้งแต่รอบบัญชี เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567
ขณะที่ ธนาคารกรุงศรี โดย กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ประกาศตั้งแต่ วันที่ 15 ตุลาคม 2566 ผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น “UCHOOSE” ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งแต่รอบบัญชีเดือน มกราคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับบัตรเครดิต อัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 5% จะเปลี่ยนเป็น 8% ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดบัญชี แต่ไม่ต่ำกว่า 300 บาท (ไม่รวมรายการผ่อนชำระรายเดือน)
สำหรับมาตรการปรับชำระขั้นต่ำบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล ธปท. หรือ แบงก์ชาติ ได้ออกมาตรการดังกล่าว เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้ารายย่อยจากผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19
จากเดิมบัตรเครดิตกำหนดชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 10% ปรับลงมาอยู่ที่ 5% และกำหนดให้ในปี 2565 กลับมาอยู่ที่ 10% แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน
ธปท.จึงต่ออายุมาตรการผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 5% ออกไปอีก 1 ปี และจะครบกำหนดสิ้นปี 2566 โดยในปี 2567 จะปรับอัตราการผ่อนชำระเป็น 8% และในปี 2568 จะปรับเข้าสู่ระดับเดิมที่ 10%
ดังนั้น นอกจาก ธนาคารออมสิน และ ธนาคารกรุงศรี นำร่องประกาศจ่ายจ่ายขั้นต่ำ 8 % คาดการณ์ว่าธนาคารต่างๆ ก็จะทยอยประกาศปรับขั้นต่ำในการชำระหนี้ตามนโยบายของแบงก์ชาติเช่นกัน
แบงก์ชาติ ชี้ ลูกหนี้บัตรเครดิต 80-90% จ่ายอัตราชำระขั้นต่ำเกิน 10% อยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สำหรับกรณีการปรับการชำระอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ (minimum payment) ของบัตรเครดิต ธปท.ได้แจ้งให้ผู้ให้บริการทั้งสถาบันการเงิน และไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) แจ้งให้ลูกหนี้รับทราบถึงเกณฑ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ หากพิจารณาดูตัวเลขจำนวนบัญชีที่คาดว่าจะมีผลกระทบจากการปรับอัตราชำระขั้นต่ำ จะพบว่ามีจำนวนบัญชีไม่ต่ำกว่า 70-80% ที่สามารถชำระขั้นต่ำเกิน 10%
อย่างไรก็ตาม ภายใต้เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ยอมรับว่าจะมีลูกค้าบางกลุ่มที่ชำระไม่ได้ ซึ่ง ธปท.จะพยายามปิดจุดอ่อน และมีมาตรการดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
