เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ของ เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จํากัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือส่งไปถึง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานการผิดนัดชําระหนี้ ของ เจเคเอ็น หลังจากที่ได้มีการยื่นเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลายกลางไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
ในรายการมีการแจ้งการผิดนัดชำระหนี้ใน 3 ส่วนหลัก ๆ คือ หนี้หุ้นกู้ภาคเอกชน หนี้สถาบันการเงิน และหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพ แต่ที่น่าสังเกตก็คือ ไม่มีการรวมยอดหนี้ในส่วนของหุ้นกู้ภาคเอกชน โดยมีรายงานเฉพาะรายละเอียดของหุ้นกู้ทั้ง 7 รุ่น ที่มีการผิดนัดชำระหนี้ แต่หากไปดูข้อมูลจะพบว่า หนี้ในส่วนชองหุ้นกู้ของ JKN มียอดรวมกันราว 3,212 ล้านบาท เมื่อรวมกับหนี้สถาบันการเงิน 688 ล้านบาท และ หนี้หุ้นกู้แปลงสภาพอีกราว 1,200 ล้านบาท จะมียอดหนี้รวมกันสูงถึง 5,100 ล้านบาท
JKN มีหนี้ผิดนัดชำระในส่วนของหนี้หุ้นกู้ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทางการเงิน รวมกันรวม 7 รุ่น รวมเป็นยอดหนี้ 3,212.15 ล้านบาท โดยแยกเป็น
- หุ้นกู้ รุ่น JKN239A วงเงิน 451.95 ล้านบาท มี บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้ รุ่น JKN243A วงเงิน 300 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้ รุ่น JKN246A วงเงิน 578.60 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้ รุ่น JKN24OA วงเงิน 400 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้ รุ่น JKN24NA วงเงิน 800 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้ รุ่น JKN252A วงเงิน 525 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
- หุ้นกู้ รุ่น JKN255A วงเงิน156.60 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
ในส่วนของหนี้สถาบันการเงิน JKN มีหนี้กับสถาบันการเงินหลัก ๆ 4 แห่ง แยกเป็น ธนาคารทหารไทยธนชาติ 278.209 ล้านบาท ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ 200 ล้านบาท ธนาคารเพื่อการส่างออกและนำเข้า หรือเอ็กซิมแบงก์ 62.44 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย 148.07 ล้านบาท รวม 688.719 ล้านบาท
ในส่วนของหนี้หุ้นกู้แปลงสภาพ JKN มีหนี้กับ North Haven Thai Private Equity Gemini Company (Hongkong) หรือ NHTPE อีก 1,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ยังไม่รวมยอดหนี้จากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น ๆ อีกราว 1,413 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกันทั้งหมดจะมียอดหนี้ที่ผิดนัดชำระราว 6,513 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมดอกเบี้ยค้างชำระ และหนี้ปรับจากการผิดนัดชำระ ซึ่งจนถึงตอนนี้หลังจากบริษัทได้ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และศาลได้มีคําสั่งรับคําร้องในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 โดยศาลล้มละลายกลางได้กําหนดวันไต่สวนคําร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 มกราคม 2567 ทําให้เกิดสภาวะการพักชําระหนี้ทั้งหมดของบริษัท (Automatic stay) ตามมาตรา 90/12แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย
