ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้(13 ธ.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,357.97 จุด ลดลง 15.05 จุด หรือ 1.16% ในระหว่างการซื้อขายดัชนีปรับตัวลดลงไปถึงจุดต่ำสุด 1,354.73 จุด ลดลง 19.19 จุด หรือ 1.39% ทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 37,893 ล้านบาท
มงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ SPACEBAR MONEY ว่า หุ้นไทยปรับลงหนักจากแรงขายหุ้นใหญ่ที่กระจายในหลายกลุ่ม สะท้อนว่านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในตลาด ปัจจัยที่กดดันหลักประเมินว่ามาจากความเสี่ยงเชิงนโยบายจากภาครัฐ ทั้งการลดค่าไฟและปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งกระทบต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทำให้นักลงทุนทั้งสถาบัน ต่างชาติมีแรงขาย ประกอบกับช่วงนี้ใกล้สิ้นปีทำให้เกิดการปิดสถานการณ์ลงทุน เพื่อพักหยุดยาว ทำให้ตลาดมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางและผันผวนสูง ข่าวลบหรือแรงขายจะมีผลกดดันให้เกิดการเหวี่ยงตัวที่รุนแรง ทั้งนี้ประเมินว่าดัชนีฯเสี่ยงจะหลุด 1350 จุด โดยมีแนวรับที่ 1322 จุดแนะนำนักลงทุนขายลดความเสี่ยง และเพิ่มการครองเงินสด
ด้านกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นที่ปรับลดลงแรงว่า ตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันจากต่างประเทศ และเชื่อว่ายังถูกแรงกดดันต่อไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งจาก 3 ปัจจัย คือ สงครามระหว่างประเทศ เศรษฐกิจจีน ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน และสุดท้ายเศรษฐกิจถดถอย
โดยมองว่าสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์เร่งต้องดำเนินการคือ สร้าง Fundermental ที่ใช่ให้กับตลาด เพราะสุดท้าย คนจะมาลงทุนจะต้องเลือกหุ้นที่ใช่ โอกาสในอนาคตที่ใช่ ทั้งนี้มองว่าพื้นฐานของไทยในระยะยาวยังดี หุ้นที่ตกลงมาเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น อนาคตประเมินว่า เศรษฐกิจปีหน้ายังขยายตัวได้ดี การลงทุนจะกลับมา ดังนั้นจึงมองว่า ผลประกอบการ กำไรของบริษัทน่าจะเติบโตได้ในปี 2567 และราคาหุ้นจะปรับตัวดีขึ้นได้ตามไปด้วยขับเคลื่อนที่ถูกต้อง และตรงไปตรงมา
