จบภารกิจจักรวาล ถึงเวลาเคลียร์ปัญหาในบ้าน

21 พ.ย. 2566 - 07:04

  • JKN ส่งหนังสือแจ้งตลาด อ้างเหตุจำเป็นรีบด่วน

  • เรียกประชุมชี้แจงบอร์ดทางโทรศัพท์ ก่อนไฟเขียวให้ยื่นแผนฟื้นฟู

economy-jkn-missuniverse-stock-set-SPACEBAR-Hero.jpg

หลังจากเสร็จสิ้น ภารกิจจักรวาล ก็ถึงเวลาที่ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ในการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจของกลุ่ม JKN Global Group ของ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ที่เพิ่งยื่นขอเข้าแผนฟื้นฟูกิจการไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ตามมาด้วยข่าวการลาออกของกรรมการบริษัทหลายคน และข้อสงสัยเกี่ยวกับการตัดสินเข้าแผนฟื้นฟูโดยได้ผ่านความเห็นชอบจากกรรมการบริษัทหรือไม่

ล่าสุด บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยังตลาดหลักทรพัย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีที่มีกรรมการบางคนไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อลงมติขอยื่นฟื้นฟูกิจการนั้น โดยยอมรับว่าในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ไม่ได้ส่งหนังสือเชิญประชุมให้กรรมการ เนื่องจากมีความจําเป็นเร่งด่วนในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว

เรื่องดังกล่าว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่บริษัทได้ผิดนัดชําระหนี้หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2563 (JKN239A) ซึ่งถึงกําหนดไถ่ถอนในวันที่ 1 กันยายน 2566 และภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ได้อนุมัติให้บริษัท สามารถผ่อนผันให้การผิดนัดชําระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันครบกําหนดไถ่ถอน ในวันที่ 1 กันยายน 2566 ไม่ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกําหนดสิทธิและไม่เรียกชําระหนี้ตามหุ้นกู้โดยพลัน (Call Default) 

จากเหตุการณ์ผิดนัดชําระหนี้หุ้นกู้ล็อตดังกล่าว อาจทําให้บริษัทผิดนัดในหุ้นกู้รุ่นอื่น ๆ ที่ออกและเสนอขายโดยบริษัททุกรุ่นในทันทีตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในข้อกําหนดสิทธิ ซึ่งบริษัทมีกําหนดการที่จะนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 เพื่อขอแก้ไขเหตุผิดนัดดังกล่าว 

ต่อมาบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อจัดทําแผนการชําระหนี้หุ้นกู้และนําเสนอต่อที่ประชุม ผู้ถือหุ้นกู้ภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 โดยทําการวิเคราะห์แนวทางการชําระหนี้ของบริษัท จาก ข้อมูลต่างๆ ของบริษัทแล้ว ได้ข้อสรุปว่าในการชําระหนี้หุ้นกู้ของบริษัทนั้นจําเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน และได้ดําเนินการแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวให้แก่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้จําหน่ายหุ้นกู้ทราบ

เจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ส่วนใหญ่ให้คว่ามเห็นว่า อาจจะไม่อนุมัติให้ผ่อนผันเหตุผิดนัดดังกล่าวได้ เนื่องจากระยะเวลาการชําระหนี้นั้นมีระยะเวลายาวนานเกินไป จึงเสนอให้บริษัทปรับลดระยะเวลา แผนการชําระหนี้ให้สั้นลงกว่าเดิม แต่บริษัทได้พิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทไม่สามารถชําระหนี้หุ้นกู้ ภายในระยะเวลาที่สั้นลงกว่านี้ได้ เนื่องจากบริษัทมีภาระหนี้อื่น ๆ นอกเหนือจากหุ้นกู้อีกด้วย

จากเหตุการณ์ดังที่กล่าวมาข้างต้น ประกอบกับมีความจําเป็นรีบด่วน เนื่องจากประธานเจ้าหน้าที่ บริหารและกรรมการผู้จัดการ คือ แอน จักรพงษ์ จะต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อปฏิบัติภารกิจการจัดงานประกวด Miss Universe 2023 และเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่าง ๆ หลายประเทศ เพื่อเป็นการหารายได้กลับเข้าสู่บริษัท อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดําเนินธุรกิจที่ได้วางไว้ ประกอบกับเลขานุการของบริษัทมีภารกิจ สําคัญหลายอย่างที่จะต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จในทันทีอันสืบเนื่องมาจากเหตุผิดนัดชําระหุ้นกู้

เพราะเหตุนี้ทําให้บริษัทไม่สามารถออกหนังสือเชิญประชุม แต่ได้ดําเนินการเรียกประชุม โดยโทรศัพท์แจ้งกรรมการได้ตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทข้อที่ 27 วรรคหก ซึ่งได้กําหนดไว้ว่า 

“ในการเรียกประชุมคณะกรรมการ ให้ส่งหนังสือเชิญประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่า สาม (3) วัน ก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจําเป็นรีบด่วน เพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด และกําหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้” 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO&MD) ได้ดําเนินการ ติดต่อไปยังคณะกรรมการของบริษัทโดยตรงด้วยวิธีการทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและแผนสํารองหากการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ไม่เห็นชอบกับแผนการ ชําระหนี้หุ้นกู้ที่จัดทําโดยที่ปรึกษาทางการเงิน จะทําให้หนี้หุ้นกู้ทุกรุ่นถึงกําหนดชําระโดยพลัน ดังนั้นบริษัทมีความจําเป็นที่จะต้องยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยกรรมการของบริษัทไม่ได้มีการคัดค้านการยื่นฟื้นฟูกิจการแต่อย่างใด 

หลังจากนั้น ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 บริษัทได้ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO&MD) ได้มีการโทรศัพท์อธิบายความจําเป็นรีบด่วนของการยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางกับกรรมการบางท่านอีกครั้งจนเป็นที่เข้าใจ 

อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 และ 10 พฤศจิกายน 2566 ได้มีกรรมการรวม 5 ท่าน ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการ 

บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่าการติดต่อกรรมการทุกท่านผ่านทางโทรศัพท์เกี่ยวกับความจําเป็นในการยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 เป็นไปด้วยความจําเป็นรีบด่วน เพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัทโดยสุจริต และบริษัทเชื่อว่าการยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางของบริษัทดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทสามารถประกอบกิจการไปพร้อมกับการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน โดยคํานึงถึงประโยชน์สูงสุดและ เป็นธรรมแก่เจ้าหนี้ทั้งหลายของบริษัทได้ต่อไป

ทั้งนี้แนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น มีดังนี้

  1. ปรับโครงสร้างกิจการและโครงสร้างทางการเงินให้สอดคล้องกับสมมติฐานทางการเงินและสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอดจนแก้ไขปัญหาของกิจการในส่วนของเงินทุนหมุนเวียน เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท รวมถึงการปรับโครงสร้างภายในองค์กร
  2. ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การผ่อนผันเรื่องดอกเบี้ย เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างรายรับจากการประกอบกิจการและนำมาจัดสรรชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้อย่างครบถ้วน และบริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้
  3. การได้รับเงินสนับสนุนทางด้านการเงินจากแหล่งเงินทุน โดยได้รับจากผู้ลงทุนรายใหม่หรือสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการหมุนเวียนในกิจการของบริษัท
  4. หาแนวทางการดำเนินการขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือก่อให้เกิดรายได้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
  5. เตรียมแผนงานและกลยุทธ์ในการบริหารสภาพคล่องของบริษัท และการปรับปรุงระบบ โครงสร้างภายในองค์กร และการพัฒนาต่อยอดธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์