แม็คโคร ยอมรับซื้อหมูเถื่อนจากซัพพลายเออร์ ทั้งเนื้อหมู และเครื่องใน พร้อมให้ความร่วมมือ ดีเอสไอ ส่งเอกสารเพิ่มเติม เพื่อแสดงความบริสุทธ์ ยืนยันการซื้อมีเอกสารรับรองถูกต้องจากหน่วยงานรัฐ
หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมหมายศาลได้เข้าตรวจค้นบริษัทแม็คโคร เพื่อหาหลักฐานคดีหมูเถื่อน 161 ตู้เนื่องจากบริษัทมีความเกี่ยวเนื่องการนำหมูเถื่อนเข้ามาจำหน่าย และใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อการตรวจค้นเสร็จสิ้นลง พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ , พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน และศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้มีการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงรายละเอียด
ศิริพร ยอมรับว่า แม็คโครสั่งซื้อชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง และสั่งซื้อเครื่องในหมู จากบริษัทผู้ค้าบางรายตามที่เป็นข่าวจริง ผู้ค้าเหล่านี้ตอนนำเข้ามาเป็นการรับซื้อถูกต้องตามกฎหมาย เพราะตรวจสอบทุกลอตมีเอกสารครบถ้วน เป็นเอกสารจากกรมปศุสัตว์ ทั้งเอกสารใบเคลื่อนย้ายและเอกสารใบนำเข้าทั้งหมด จะเตรียมเอกสารนำเข้าทั้งหมดที่รับซื้อทุกลอตให้ดีเอสไอ
บริษัทที่เป็นข่าวเป็นคู่ค้ากับแม็คโครมาหลายปี มีสินค้านำเข้าแช่แข็งหลายรายการที่รับซื้อ เช่น ปลา อาหารทะเล รับซื้อกันโดยมีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงที่มีปัญหาเครื่องในหมู บริษัทคู่ค้ามานำเสนอและมีใบนำเข้าที่ชัดเจน บริษัทนี้จึงเป็นหนึ่งในบริษัทคู่ค้าเท่านั้น
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวด้วยว่า การเลิกสั่งซื้อจากบริษัทดังกล่าว เพราะพบว่าเครื่องในหมูบางส่วนไม่ได้มาตรฐานจึงปฏิเสธการรับซื้อและใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดคือหยุดการรับซื้อ
‘เราหยุดซื้อเนื้อหมูแช่แข็งจากบริษัทดังกล่าวกลางปี 2565 ส่วนเครื่องในหมูแช่แข็งหยุดซื้อช่วงต้นปี 2566 เพราะระบบคุณภาพ ถ้าลอตนั้นมีปัญหาเรื่องคุณภาพต้องหยุดรับซื้อ ถ้า เอกสารที่บริษัทคู่ค้าส่งมาให้เราพิสูจน์ภายหลังได้ ว่าเป็นเอกสารผิดกฎหมาย เราจะหยุดรับซื้อและมีมาตรการลงโทษไม่รับซื้ออีกต่อไป ยังพูดไม่ได้ว่าเขาสำแดงเท็จหรือไม่ อยากให้ดีเอสไอตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเอกสารถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่’
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 พ.ย. และวันที่ 21 พ.ย. กรมปศุสัตว์ กรมการค้าภายใน สาธารณสุขจังหวัด ได้เข้าตรวจศูนย์กระจายสินค้าแม็คโครทั้งที่มหาชัยและวังน้อย เพื่อตรวจสอบการดำเนินการและเอกสารรับซื้อ ก่อนที่ ดีเอสไอ จะเข้าตรวจสอบเป็นครั้งที่ 3
ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากที่ดำเนินคดีบริษัทเว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด (WEALTHY & HEALTHY FOODS CO., LTD) จับกุมผู้ต้องหา 2 คน ผู้ต้องหาให้การพนักงานสอบสวน อีกทั้งยังได้พยานหลักฐานจากการตรวจค้นบริษัท พบพยานหลักฐานการจำหน่ายสินค้าให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง และมีหลักฐานระบุว่า มีการส่งสินค้าตับหมูมายังแม็คโคร
เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดว่า การรับซื้อของแม็คโครและบริษัทผู้ต้องหาผิดพลาดหรือถูกต้องอย่างไรหรือไม่ แต่การเข้าตรวจสอบเอกสาร สิ่งที่เห็นคือเอกสารการซื้อขายที่กระทำอย่างเปิดเผย มีการซื้อขายกันมาต่อเนื่อง เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอนวิธีการซื้อขาย
การเข้ามาพบปะหารือกับผู้บริหาร เพื่อแสดงความต้องการว่า ต้องการเอกสารใดบ้าง เช่นรายการซื้อขาย เอกสารการสำแดงต่างๆ และบริษัทให้ความร่วมมือดี เก็บเอกสารอย่างดี หลังจากนี้สามารถยื่นเอกสารเพิ่มเติมได้ โดยจะให้อยู่ภายใน 1 เดือน
ดีเอสไอ ได้ดำเนินคดีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ หลังสืบสวนสอบสวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (เนื้อสุกรแช่แข็ง) ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน และศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าหรือชิปปิ้งเอกชน 10 ราย ความผิดฐานนำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 และความผิดฐานนำเข้าส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 จับกุม 2 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายวิรัช ภูริฉัตร กรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด (THE GOOD SHOP CO., LTD) และนายธนกฤต ภูริฉัตร ลูกชายกลุ่มนายทุน พร้อมทั้งสรุปสำนวนผู้ต้องหาชุดแรกกว่า 20 ราย เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกชนที่นำเข้าสินค้าประเภทซากสุกร เนื้อหมูนำเข้ามาจากประเทศฝั่งยุโรป เช่น เดนมาร์ก เยอรมนี
ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมในขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้โพสต์ข้อความว่า 'วิถีราชการ' พร้อมรูปและข้อความของ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ว่า ‘ทำใจอยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่มานั่งเป็นผู้บริหารสูงสุดที่นี่แล้วครับ ว่าต้องถึงวันนี้ แต่ผมเลือกทางเดินและวิถีผมเองตั้งแต่ต้น ไม่เสียใจครับ เพราะทำเต็มที่แล้ว เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับทุกท่านครับ (28 พ.ย.2566)’
