ด่วน! ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 1 ม.ค.67

8 ธ.ค. 2566 - 09:48

  • พบ ‘ภูเก็ต’ ขึ้นค่าแรงขั้นสูงสุด 370 บาท

  • แม้ปรับไม่ถึง 400 บาทต่อวัน แต่ถือว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม

  • 3 จังหวัด นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ปรับน้อยสุด

Economy_minimum_wag_Nationwide_1_Jan_2024_SPACEBAR_Hero_321d52cb98.jpg

บอร์ดค่าจ้าง เคาะ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ พบ  ‘ภูเก็ต’ ขึ้นค่าแรงขั้นสูงสุด 370 บาท ด้าน 3 จังหวัดชายแดนใต้น้อยสุด เริ่มบังคับใช้ 1 ม.ค.67

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่กระทรวงแรงงาน มีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 ที่ประกอบด้วย กรรมการไตรภาคีพิจารณาการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2566 โดย ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุม 

จากข้อมูลในการประชุมพบว่ามี 5 จังหวัด หนึ่งในนั้นคือ จ.ภูเก็ต ไม่ได้เสนอขอปรับค่าจ้างขั้นต่ำเข้ามาแต่อย่างใด แต่จากหารือเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง ไพโรจน์ ในฐานะกรรมการไตรภาคีได้แถลงผลการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมมีมติให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำทั้ง 77 จังหวัด ในอัตราเพิ่มขึ้น 2-16 บาท 

ซึ่งค่าจ้างค่าขั้นต่ำที่เพิ่มมากที่สุดคือ จ.ภูเก็ต คือ 370 เพิ่มขึ้นจาก 354 บาท และต่ำที่สุดคือ 330 บาท ใน 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 328 บาท

  1. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 370 บาท 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จากเดิม 354 บาท
  2. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 363 บาท 6 จังหวัด กรุงเทพมหานคร (353) จังหวัดนครปฐม (353) นนทบุรี (353) ปทุมธานี (353) สมุทรปราการ (353) และสมุทรสาคร (353)
  3. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 361 บาท 2 จังหวัด จังหวัดชลบุรี (354) และระยอง (354)
  4. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 352 บาท จำนวน 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา (340)
  5. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 351 บาท จำนวน 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสงคราม (338)
  6. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 350 บาท จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (343) สระบุรี (340) ฉะเชิงเทรา (345) ปราจีนบุรี (340) ขอนแก่น (340) และเชียงใหม่ (340)
  7. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 349 บาท จำนวน 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลพบุรี (340)
  8. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 348 บาท จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี (340) นครนายก (338) และหนองคาย (340)
  9. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 347 บาท จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ (340) และตราด (340)
  10. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 345 บาท จำนวน 15 จังหวัดกาญจนบุรี (335) ประจวบคีรีขันธ์ (335) สุราษฎร์ธานี (340) สงขลา (340) พังงา (340) จันทบุรี (338) สระแก้ว (335) นครพนม (335) มุกดาหาร (338) สกลนคร (338) บุรีรัมย์ (335) อุบลราชธานี (340) เชียงราย (332) ตาก (332) พิษณุโลก (335)
  11. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 344 บาท จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี (335) ชุมพร (332) สุรินทร์ (335)
  12. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 343 บาท จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยโสธร (335) ลำพูน (332) นครสวรรค์ (335)
  13. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 342 บาท จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช (332) บึงกาฬ (335) กาฬสินธุ์ (338) ร้อยเอ็ด (335) เพชรบูรณ์ (335)
  14. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 341 บาท จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชัยนาท (335) สิงห์บุรี (332) พัทลุง (335) ชัยภูมิ (332) และอ่างทอง (335)
  15. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 340 บาท จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง (332) สตูล (332) เลย (335) หนองบัวลำภู (332) อุดรธานี (340) มหาสารคาม (332) ศรีสะเกษ (332) อำนาจเจริญ (332) แม่ฮ่องสอน (332) ลำปาง (332) สุโขทัย (332) อุตรดิตถ์ (335) กำแพงเพชร (332) พิจิตร (332) อุทัยธานี (332) และราชบุรี (332)
  16. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 338 บาท จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรัง (332) น่าน (328) พะเยา (335) แพร่ (332)
  17. อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 330 บาท จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส (328) ปัตตานี (328) และยะลา (328)

เฉลี่ย 345 รวม 77 จังหวัด

 ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป

ไพโรจน์ กล่าวว่า เหตุผลของการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ จะต้องดูเรื่องอัตราเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ สภาพการจ้างงาน อัตราการว่างงาน ซึ่งอาจจะมีคำถามว่าบางจังหวัดขึ้นค่าจ้างน้อย บางจังหวัดขึ้นค่าจ้างสูง ต้องย้ำว่าทางคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละจังหวัด มีสูตรการคำนวณตัวเลขค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ แล้วนำมาพิจารณาในที่ประชุมวันนี้ ดังนั้น การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไม่สามารถดูได้จากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง จะต้องดูจากหลายปัจจัยประกอบ

ส่วนอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ ไพโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นการพิจารณาในระยะถัดไป ซึ่งก็จะพยายามปรับให้ขึ้นเป็นไปตามอัตราที่กำหนดไว้คือ 400 บาท แต่ต้องทำความเข้าใจว่าการปรับค่าแรงขั้นต่ำนั้นเป็นการพิจารณาร่วมกันใน 3 ภาคี ที่ต่างก็มีเหตุผลเห็นสมควร โดยการประชุมในวันนี้ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่หากจะมีการปรับค่าจ้างใหม่ ก็ต้องมีการพิจารณาในปีหน้า

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์