การเปิดตัวรถมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ไฮบริด ของบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น คือการสะท้อนถึงภาพความเปลี่ยนแปลงในการใช้รถของผู้บริโภคในประเทศไทยอย่างชัดเจนมากขึ้น และเป็นการปรับตัวของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่ต้องต่อสู้กับรถไฟฟ้าจากจีน ที่ชัดเจนขึ้นด้วยการเข้ามาของรถไฟฟ้าจีน เป็นการเปลี่ยนแปลงตลาดรถยนต์ทั่วโลกที่รุนแรง และกระทบกับผู้ผลิตรถรายเดิม
มิตซูบิชิ ถือว่าการเปิดรถรุ่นนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงมาสู่รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และทดลองดูระบบไฮบริดสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
กลยุทธ์ที่มิตซูบิชิใช้ครั้งนี้ คือ การใช้เรื่องราคามาเป็นตัวตัดสิน ด้วยการตั้งราคาขายเท่ากับรถใช้น้ำมันในรุ่นเดียวกัน
New Mitsubishi Xpander HEV e:motion Full Hybrid
สำหรับ Xpander รุ่นเก่า ใช้ระบบน้ำมัน
- Xpander ราคา 912,000 บาท
- Xpander Cross ราคา 946,000 บาท
Xpander HEV รุ่นใหม่ ไฮบริด
- Xpander HEV ราคา 912,000 บาท
- Xpander Cross HEV ราคา 946,000 บาท
เป็นราคาแนะนำถึง 7 เมษายน 2567 และเพิ่มแคมเปญส่งเสริมการขายเต็มรูปแบบ ทั้งดอกเบี้ย การรับประกัน บริการหลังการขาย ทางผู้บริหารของมิตซูบิชิบอกว่า หลังจากนั้นราคา พิจารณาเรื่องราคาขายอีกครั้ง

สำหรับสเปกเครื่องยนต์ มีดังนี้
- เครื่องยนต์ New Mitsubishi Xpander HEV 2024
- เครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC 95 แรงม้า 134 นิวตันเมตร
- ระบบFull Hybrid ชุดมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร
- ระบบช่วงล่างใหม่ NEW Suspension
การเข้าสู่ตลาดรถยนต์ของจีน ด้วยการเปิดตลาดรถไฟฟ้า ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นต้องหาทางรับมือ เพราะทิศทางการพัฒนารถไฟฟ้า 100% ของค่ายรถญี่ปุ่น ดูเหมือนห่างจากรถไฟฟ้าจีนหลายช่วงตัว ขณะที่จีนพัฒนารถไฟฟ้าแบบก้าวกระโดด แต่ค่ายญี่ปุ่นพัฒนารถไฟฟ้าแบบนิ่ง ๆ
มาซาฮิโระ อิโตะ หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รถไฟฟ้าจีนที่เข้ามาบุกตลาด ทางบริษัทได้ประเมิน และหามาตรการรับมือ ซึ่งมีหลายรูปแบบที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้แข่งขันกับรถไฟฟ้าได้ คือ แบรนด์มิตซูบิชิ ที่ลูกค้ามั่นใจ เรื่องคุณภาพ และการขับขี่ แต่ในระหว่างนี้บริษัทก็ทำการพัฒนารถไฟฟ้าควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน
สำหรับยอดขายของรถยนต์กลุ่ม MPV ในปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,312 คัน โดยมี Toyota Veloz มียอดขายอันดับ 1 จำนวน 11,508 คัน ตามมาด้วย Mitsubishi Xpander จำนวน 9,074 คัน และอันดับสาม Hyundai Stargazer จำนวน 1,519 คัน
