รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กฤษฎา จีนะวิจารณะ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรื่องการใช้ Program Trading ว่ามีผลอะไรบ้าง ถ้า ก.ล.ต.พิจารณาตรวจสอบแล้วพบว่ามีผลกระทบ และไม่ควรมีการใช้ Program Trading ก็ต้องมีมาตรการหรือประกาศยกเลิกต่อไป
เขายืนยันด้วยว่า หุ้นที่กระทรวงการคลัง หรือรัฐบาลเข้าไปถือไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากการถือหุ้นของภาครัฐไม่ใช่ทำเพื่อการเก็งกำไร แต่เป็นก็เข้าไปถือหุ้นตามนโยบายเท่านั้น ทาง ก.ล.ต.กับ ปลัดกระทรวงการคลังได้หารือกันตลอด อีกทั้งนายกรัฐมนตรี ก็มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง ดูแล ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย อยู่แล้ว
ส่วนภาวะตลาดหุ้นภาวะตกต่ำนั้น เกิดจากสาเหตุเฉพาะภายในตลาดทุนเอง อย่างไรก็ดี เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในระดับดีมาก มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มีเงินคงคลังมีกว่า 5 แสนล้านบาท อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่กว่า 19% มากกว่าที่ ธปท.กำหนด รวมถึงดุลการค้าประเทศก็ยังดีอยู่ และเรื่องการจัดดับเครดิตประเทศก็ยังดีอยู่เช่นกัน
ก่อนหน้านี้เพียง 1 วันกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบน เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ‘เลิก Program Trading… จะดี’ ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็ออกมารับลูกดำเนินการทันที เพราะสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นปรับตัวลงรุนแรง ท่ามกลางเสียงสะท้อนของนักลงทุนเกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ไม่เหมือนช่วงหาเสียง หลายคนให้นิยามว่า ‘นโยบาย‘ไม่ตรงปก’ ขาดความเชื่อมั่น