ปตท. คือ เป้าหมายต่อไปที่ซีกการเมืองจะเข้าไปควบคุมดูแล เป้าหมาย คือ การปลดบอร์ดบริหารยกชุด เพื่อเริ่มต้นใหม่ ประธานบอร์ด ทศพร ศิริสัมพันธ์ เปิดหน้าชน ร้อง กลต. ให้ตรวจสอบ
จับตาประชุมบอร์ด ปตท. 19 ตุลาคมนี้ อาจมีปฏิบัติการล้างบางบอร์ดปตท. ประธานบอร์ด ทศพร ศิริสัมพันธ์ ดับเครื่องชน ส่งหนังสือถึง กลต.หวั่นถูกปลดออกก่อนครบวาระ
อาจจะเป็นวาระทางการเมืองอย่างหนึ่ง เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล บรรดาหน่วยงานกึ่งรัฐวิสาหกิจ มักจะตกเป็นเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ อย่างบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท.ในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ อาจจะมีการเสนอวาระเปลี่ยนแปลงและแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ โดยอาจจะมีการกดดันให้ ประธานกรรมการ ปตท. ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ให้พ้นจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการนำคนจากสายการเมืองเข้ามาแทน
มีรายงานข่าวว่า ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะว่า ผู้มีอำนาจทางการเมืองต้องการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการ และกรรมการปตท.ชุดใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน
กระแสข่าวดังกล่าวเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อ ประธานกรรมการ ปตท.ถึงขนาดทำหนังสือไปถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. โดยระบุว่าอาจจะมีการตีความข้อบังคับของบริษัทผิดไปจากข้อบังคับที่ 34 ของบริษัทเกี่ยวกับการพ้นตำแหน่งของ ประธาน หรือ กรรมการ ซึ่งตามปกติ จะต้องพ้นไปตามวาระ ตาย ลาออก หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ลาออก หรือขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
หากมีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการโดยพลการ โดยที่ยังไม่ครบวาระ ต้องถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนข้อบังคับ และเจตนาปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติ ตามมาตรา 157 อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ดร.ทศพร ขอให้ กลต.พิจารณาตามอำนาจหน้าที่ และมีคำสั่งให้ ปตท.ปฎิบัติตามข้อบังคับดังกล่าวอย่างเคร่งครัด หรือมีคำสั่งเพื่อระงับยับยั้งการกระทำดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวลือว่า แม้แต่ตำแหน่งซีอีโอ ของ ปตท. คือ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เองก็ตกเป็นเป้าหมายที่อาจจะมีแรงกดดันให้ลาออกเช่นกัน
