อุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า แสนสิริเป็นองค์กรธุรกิจขนาดกลางที่ได้ริเริ่มสร้างกลยุทธ์ในด้านความยั่งยืนมากว่า 10 ปี หรือปัจจุบันเราเรียกว่า ESG (Environmental, Social และ Governance)
โดย แสนสิริ พบว่ากลุ่มที่เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจไปสู่ความยั่งยืน คือ "กรีนพาร์ตเนอร์" และความร่วมมือใน Ecosystem เป็นพลังสำคัญในการสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานกลางที่กำหนดนโยบายและวางโรดแมปของประเทศ ภาคเอกชนที่ร่วมเป็นกรีนพาร์ตเนอร์กับแสนสิริในครั้งนี้ที่มาจากภาคสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง สถาปัตยกรรมการออกแบบ และพลังงานสะอาด ต้นน้ำสำคัญในการนำนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอดสินค้าและบริการ รวมถึงภาคสื่อสารมวลชนที่มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนและผู้บริโภคตระหนักในเรื่องความยั่งยืนโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมที่ปัจจัยสำคัญที่นานาชาติให้ความสำคัญ
สิ่งสำคัญ คือ แสนสิริ จะขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนให้บาลานซ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาระดับการเติบโตของผลประกอบการได้อย่างไร สำหรับแสนสิริเรามีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยนำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และบริการด้านการอยู่อาศัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างครบวงจร ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ผ่านกลยุทธ์การดำเนินงานด้านความยั่งยืน 3 ระดับ คือ ภายในองค์กร ความร่วมมือกับพันธมิตร และชุมชนสังคม โดยเป้าหมายสูงสุดด้านความยั่งยืนของแสนสิริไม่ใช่เฉพาะการดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสนับสนุนกรีนพารต์เนอร์ให้เติบโตไปด้วยกัน
โดยแสนสิริ ได้ประกาศพันธกิจ อาสาเป็นผู้นำในการสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ แสนสิริ ทำ คือแนวคิดนวัตกรรมบ้านสีเขียว (Green Living Designed Home) ซึ่งเป็นหนึ่งใน Key Driver ที่ยกระดับการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ของโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ รวมถึงเทรนด์การอยู่อาศัยที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในการลดผลกระทบและสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งแนวคิดนี้ประกอบไปด้วยกลไกในการทำงาน 3 Green Framework
1. Green Procurement คือการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ เลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน ที่มีการคำนึงถึงการผลิตที่ลดการใช้ทรัพยากรหรือการนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมวางเป้าหมายจัดซื้อวัสดุคาร์บอนตํ่า (Low-Carbon) ทั้งนี้ แสนสิริได้เลือกใช้วัสดุดังกล่าวไปแล้วกว่า 53% ในปี 2566 ถัดมาคือ
2. Green Construction ที่มีขั้นตอนก่อสร้างที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การนำนวัตกรรม ผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปจากโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปของแสนสิริ ซึ่งทำให้ลดระยะเวลาการก่อสร้างลง 3 เดือน ลดขยะจากการก่อสร้างได้ถึง 15% ช่วยลดฝุ่นและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไซต์ก่อสร้างลงเป็นจำนวนมาก
3. Green Architecture & Design หรือ การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย (Well-being) รวมถึงการออกแบบที่ผสานแนวคิดการพึ่งพาธรรมชาติ (Nature Based Design Solution) มาปรับใช้ เพื่อลดการใช้พลังงานของบ้านและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย พร้อมส่งมอบบ้านที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และรองรับการอยู่อาศัยของลูกบ้านอย่างดีที่สุด
สำหรับการจัดงาน Rethinking Sustainability มุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน พันธมิตรที่มีประสบการณ์แตกต่างกันจะสามารถแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่ Best Practice ในอุตสาหกรรมได้ อาทิ บางองค์กรโฟกัสเรื่องสิ่งแวดล้อม การปล่อยน้ำเสีย การชดเชยคาร์บอน หรือแม้กระทั่งเรื่องสิทธิพื้นฐานของแรงงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต
ขณะที่ วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (เอสซีจี) กล่าวว่า การจะมีที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน วัสดุมีความสำคัญอย่างมาก วัสดุที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนต้องตอบโจทย์ในหลายมิติ มีกระบวนการผลิตที่ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ต่ำกว่าหรือช่วยให้ที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงาน รวมไปถึงตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของคนที่ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น มีคุณภาพอากาศที่ดี เป็นต้น