กองทุนประกันสังคม ปรับเป้าการลงทุนจาก 2.4% เป็น 5 %

4 มี.ค. 2567 - 08:43

  • กำหนดแนวทาง 4 ข้อหลัก เพื่อผู้ประกันตน

  • ปรับเป้าเพิ่มรายได้กองทุนประกันสังคม จาก 2.4% เป็น 5%

1262253.jpg

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการของสำนักงานประกันสังคม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงแรงงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานประกันสังคม ภายใต้นโยบาย “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันสังคมเด่น เน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 กระทรวงแรงงาน 

รมว.แรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานได้กำหนดทิศทางเป้าหมายให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายสำคัญของรัฐบาล มอบแนวทางแก่สำนักงานประกันสังคมในการขับเคลื่อนนโยบายที่ต้องเร่งรัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว  

ภายใต้นโยบาย “มุ่งเน้นการบริการที่ได้มาตราฐาน วินิจฉัยโรคที่แม่นยำรวดเร็ว สะดวกสบาย และ มีการติดตามผล พร้อมคุ้มครอง ดูแลและสร้างสวัสดิการที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน” พร้อมเตรียมเดินสายพบสหภาพแรงงาน หรือ ออกหนังสือหารือ ในการสร้างสวัสดิการที่ดี เป็นประโยชน์กับผู้ประกันตน   

 โดยกำหนดมีรายละเอียดแนวทาง 4 ข้อหลักๆ ดังนี้ 

 1. นโยบายด้านการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้ประกันตน  ปรับปรุงและพัฒนากฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ มีมาตรฐานสากล พร้อมพัฒนาและยกระดับสิทธิการรักษา รวมถึง สวัสดิการของงานด้านประกันสังคม ที่มีความทันสมัย และตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตน ผ่านโครงการ MICRO FINANCE : ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน 

2. นโยบายเชิงรุกเพื่อการส่งเสริมสุขภาพที่ดีสำหรับผู้ประกันตน โครงการตรวจสุขภาพเชิงรุก ณ สถานประกอบการ ที่มุ่งเน้นการตรวจคัดกรองโรคที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ มาใช้เพื่อการคัดกรองโรคอันตราย ณ สถานประกอบการ 

3. นโยบายด้านการยกระดับงานด้านการบริการ “รวดเร็ว สะดวกสบาย และ มีการติดตามผล” สู่การพัฒนา BEST E-SERIVCE ประกันสังคมยุคใหม่ สร้างความมั่นคง เพิ่มความมั่นใจ ยกระดับการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตนในการรับบริการ มีการพัฒนาระบบ TELE – MEDICINE เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกในการได้รับการบริการด้านการรักษาพยาบาล และช่วยลดความแออัด ณ สถานพยาบาล และการพัฒนาระบบประเมินความพึงพอใจในการเข้าบริการของผู้ประกันตน ณ สำนักงานประกันสังคม และโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อการนำข้อมูลมาใช้เพื่อการพัฒนาและระดับงานด้านการบริการและรักษาพยาบาล 

4. นโยบาย “กองทุนมั่นคง แรงงานมั่งคั่ง ประกันสังคมยั่งยืน” เพื่อการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยั่งยืน

ส่วนแรก คือ การเพิ่มจำนวนผู้ประกันตน พร้อมเร่งศึกษาพัฒนา PACKAGE ด้านประกันสุขภาพที่ตอบสนองความต้องการของผู้ประกันตนยุคใหม่ เพิ่มกลุ่มเป้าหมายของผู้ประกันตนให้เข้าสู่ระบบประกันสังคมที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานอิสระ หรือมาตรา 40

ส่วนที่สอง คือ พัฒนาด้านการลงทุนที่มีประสิทธิภาพให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนที่มากกว่าปัจจุบัน โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนการลงทุน จาก 2.4% เป็น 5%  หรือ จากปีละ 60,000 ล้านบาท เป็น 120,000 ล้าน ไต่ระดับขึ้นไปตั้งแต่ปี 67-70 นำไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กันผู้ประกันตน

รมว.แรงงาน กล่าวว่าได้เสนอแนวทางให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการพิจารณา ดังนี้

1. คณะกรรมการประกันสังคม พิจารณาแนวทางให้นายจ้างสร้างหลักประกันสังคมให้กับลูกจ้าง โดยขึ้นทะเบียนและจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมอย่างครบถ้วน เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์และการคุ้มครองตามกฎหมายครบถ้วน 

2.คณะกรรมการการแพทย์ พิจารณาการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของลูกจ้างหรือผู้ประกันตน ให้ได้รับสิทธิไม่ด้อยกว่าหรือดีกว่ากองทุนอื่น รวมถึงศึกษานวัตกรรมทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ 

3 คณะกรรมการอุทธรณ์ พิจารณาคำอุทธรณ์ของลูกจ้าง นายจ้าง หรือผู้มีส่วนได้เสีย ด้วยความรวดเร็ว แต่ต้องอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมาย และการวินิจฉัยสิทธิประโยชน์ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน  

4.   คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน พิจารณาเรื่องการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน พัฒนามาตรการหรือสร้างแรงจูงใจในการลดอุบัติเหตุจากการทำงาน 

5. คณะกรรมการตรวจสอบกองทุนเงินทดแทน พิจารณาแนะนำแนวทางการกำกับ ตรวจสอบ และวางระบบการบริหารกองทุน ให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างเชื่อมั่นให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน 

บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการประกันสังคมและคณะกรรมการอุทธรณ์ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของงานในวันนี้เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาระบบงานประกันสังคม เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น และได้รับความไว้วางใจ ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตแก่ลูกจ้าง และผู้ประกันตน โดยคณะกรรมการของสำนักงานประกัน สังคม มีทั้งสิ้น 7 คณะ ซึ่งในวันนี้มาร่วมประชุม จำนวน 5 คณะ โดยอีก 2 คณะ คือ คณะกรรมการตรวจสอบกองทุนประกันสังคม และ คณะกรรมการการแพทย์กองทุนเงินทดแทน อยู่ระหว่างการสรรหาเนื่องจากหมดวาระ 

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมยกระดับกองทุน และพร้อมขับเคลื่อนตามนโยบายฯ ร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ใช้แรงงานทุกคน เพื่อวางรากฐานความมั่นคงทางสังคมต่อไป

แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ จาก กระทรวงแรงงาน อธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กองทุนประกันสังคม นำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงราว 75 % และ สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง 25 %

ซึ่งตามประกาศ ระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม พ.ศ.2549 กำหนดกรอบเพดานให้กองทุนประกันสังคมสามารถลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงได้สูงสุดถึง 60 % (เงินฝากธนาคารรัฐ,พาณิชย์ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน BBB+ ) ส่วนอีก 40 % ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง (หุ้น กองทุนรวม กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือ  REIT )

ดังนั้นเมื่อมีการประกาศนโยบายออกมาจาก รัฐมนตรีแรงงาน จากนี้เป็นหน้าที่ของ บอร์ดประกันสังคมชุดใหม่ ที่เพิ่งแต่งตั้งไปเมื่อ 14 ก.พ.67 ในการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนของกองทุนประกันสังคมให้มีความเหมาะสมต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมนัดแรกในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าอย่างเร็วที่สุด สัดส่วนการลงทุนใหม่นี้ จะสามารถเริ่มใช้ได้ภายในต้นปี 2568 เนื่องจากตามแผนยุทธศาสตร์เดิมจะหมดอายุ ธ.ค.67

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์