การเดินทางด้วยรถไฟ ถือเป็นการเดินทางที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากราคาประหยัดแล้ว ในเรื่องของการได้สัมผัสบรรยากาศ 2 ข้างทางในแต่ละพื้นที่ ก็เป็นสิ่งหลายคนอยากจะซึมซับ หากจะพูดถึงราคาค่าโดยสารของรถไฟ ต้องบอกว่าอัตราค่าโดยสารหากเป็นขบวนชานเมือง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2 บาทเท่านั้น
โดยในส่วนของค่าโดยสารรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ที่เป็นการเดินทางในระยะไกล ล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ปรับลดค่าโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ 8 ขบวนเป็นการชั่วคราว ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างให้บริการอาหารบนขบวนรถรายใหม่ มีผลตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
สาเหตุของการปรับลดราคาค่าโดยสารนั้น เอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่ม และพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ (กรุงเทพ – เชียงใหม่) สายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพ - อุบลราชธานี) และสายใต้ (กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี) โดยได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีบริษัทเอกชนซื้อเอกสารการประกวดเสนอราคา
ล่าสุด การรถไฟฯ ได้ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถรอบใหม่ เพื่อให้ได้ผู้รับจ้างโดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการออกประกาศเชิญชวนเสนอราคา คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 90 วัน จึงจะทราบผลพิจารณา
ดังนั้น ในระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ การรถไฟฯ จึงงดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมทั้งปรับลดอัตราค่าตั๋วโดยสาร จำนวน 80 บาททุกที่นั่ง เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะได้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการ
ขบวนรถที่มีการปรับลดราคา ทั้ง 8 ขบวน
สำหรับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าก่อนวันที่ 1 กันยายน 2566 สามารถขอรับเงินคืนค่าบริการอาหาร จำนวน 80 บาทได้ในวันที่เดินทาง โดยแสดงตั๋วโดยสารกับพนักงานบนขบวนรถ เพื่อทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนที่สถานีปลายทางต่อไป
โดยในส่วนของค่าโดยสารรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ที่เป็นการเดินทางในระยะไกล ล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ปรับลดค่าโดยสารขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ 8 ขบวนเป็นการชั่วคราว ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างให้บริการอาหารบนขบวนรถรายใหม่ มีผลตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
สาเหตุของการปรับลดราคาค่าโดยสารนั้น เอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่ม และพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางสายเหนือ (กรุงเทพ – เชียงใหม่) สายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพ - อุบลราชธานี) และสายใต้ (กรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี) โดยได้เปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีบริษัทเอกชนซื้อเอกสารการประกวดเสนอราคา
ล่าสุด การรถไฟฯ ได้ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคาจ้างจัดบริการอาหาร/เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถรอบใหม่ เพื่อให้ได้ผู้รับจ้างโดยเร็วที่สุด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการออกประกาศเชิญชวนเสนอราคา คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 90 วัน จึงจะทราบผลพิจารณา
ดังนั้น ในระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ การรถไฟฯ จึงงดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมทั้งปรับลดอัตราค่าตั๋วโดยสาร จำนวน 80 บาททุกที่นั่ง เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะได้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการ
ขบวนรถที่มีการปรับลดราคา ทั้ง 8 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7/8 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 21/22 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 39/40 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สุราษฎร์ธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43/44 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สุราษฎร์ธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สำหรับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าก่อนวันที่ 1 กันยายน 2566 สามารถขอรับเงินคืนค่าบริการอาหาร จำนวน 80 บาทได้ในวันที่เดินทาง โดยแสดงตั๋วโดยสารกับพนักงานบนขบวนรถ เพื่อทำการบันทึกไว้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืนที่สถานีปลายทางต่อไป