Ajay Sharma หัวหน้าฝ่ายโนเกียประเทศไทย และกัมพูชา ยืนยันถึงความตั้งใจของโนเกีย ในการขยายการดำเนินกิจการในหลายประเทศ และหลายภูมิภาคมากขึ้น ให้สอดคล้องกับการคาดการณ์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจดิจิทัล ซึ่งโนเกีย มีความมุ่งมั่นในการขยายบทบาท ในประเทศและภูมิภาคที่กว้างขึ้น และสอดคล้องกับการคาดการณ์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลใน ปีที่กำลังจะมาถึงนี้
Sharma ยังระบุด้วยว่า Nokia มีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในธุรกิจในตลาดประเทศที่กำลังพัฒนา พร้อมยังเน้นย้ำถึงจุดยืนเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ในการเชื่อมต่อ Data Center ที่ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย และมั่นใจว่า โนเกีย อยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับตลาดนี้
ความเชื่อมั่นของ Sharma เกิดจากกรณีที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย หรือ บีโอไอ มีนโยบายจูงใจหลายโครงการ ทั้งการยกเว้นภาษี และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ สำหรับบริษัทที่ลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัล และ Data Center ในไทย จึงทำให้อีกหลายบริษัทหลายแห่ง ทั้ง Etix Everywhere, Singtel-AIS และ Raimond Land-Nautilus Data Technologies ได้จัดทำแผนความร่วมมือ พัฒนา Data Center ในประเทศไทยแล้ว
นอกจากนั้น ผลการวิจัยของ Rational Stat ยังคาดว่า ตลาด Data Center ของไทยจะเติบโต ประมาณร้อยละ 25 ในช่วงปี 2565-2571 และคาดว่า ภายในปี 2568 ตลาด Data Center ของประเทศ จะมีขนาดเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 100 เมกะวัตต์ของกำลังการผลิตในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบัน Data Center ในประเทศไทยหลายแห่งกำลังจะเกิดขึ้น และดิจิทัล 4.0 ยังได้รับการสนับสนุน จึงทำให้ Data Center จำนวนมากจะถูกนำมาใช้ เพื่ออุตสาหกรรมดิจิทัลนี้
โนเกีย ยังมองศักยภาพการเติบโตของเทคโนโลยีไทย ที่เปิดยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีปี 2030 และระบุแนวโน้มเทคโนโลยีเกิดใหม่ ที่จะกำหนดทิศทางเทคโนโลยี เครือข่ายต่าง ๆ ในอีก 7 ปีข้างน้า ซึ่งแนวโน้มหลัก ที่จะมีอิทธิพลต่อ Nokia ได้แก่ AI, คลาวด์, Metaverse, การเขียนโปรแกรม และแอปพลิเคชัน, อุตสาหกรรม 5.0 ในบทบาทของหุ่นยนต์ที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น ดังนั้น Sharma จึงเห็นศักยภาพของดิจิทัลไทย ในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ อุตสาหกรรม และเปลี่ยนสังคมในประเทศไทย และหวังว่า โนเกียมีบทบาทสำคัญในความก้าวหน้าต่าง ๆ เหล่านี้
