จากสถานการณ์โควิด-19 ทำ พนักงานสายเทคฯทั่วโลกเฟ้อ เมื่อเจอกับเทคโนโลยี 'Gen AI' จึงนำมาสู่ ‘วิกฤต The Great Tech Layoff’
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดว่าปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะส่งผลกระทบต่องานเกือบ 40% ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากกว่าประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่และรายได้ต่ำ พร้อมยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่าภาพใหญ่ AI มีแนวโน้มทำให้ความเท่าเทียมโดยรวมแย่ลง
ปี 2023 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัว Generative AI (Gen-AI) จากหลายผู้เล่นในตลาด โดย ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้มีความสามารถในการ “สร้างใหม่” จากชุดข้อมูลที่มีอยู่ ด้วยอัลกอริทึมแบบ Generative Model ที่หลายค่ายต่างออกโปรดักส์ของตัวเองออกมาได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ยกตัวอย่าง Generative AI ใกล้ตัวจาก 2 เจ้าใหญ่ๆ เช่น ChatGPT โปรแกรมแชตบอต AI ที่ถูกพัฒนามาจาก ทีม OpenAI จาก Microsoft และ Bard จาก Google ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ใครหลายคน เวลาต้องการคำตอบ ทั้งในรูปแบบรูปภาพ วิดีโอ เสียง ข้อความ ได้อย่างดีเยี่ยม
แม้จะส่งผลดีให้กับผู้ใช้งานอย่างดีเยี่ยม สำหรับการเกิดขึ้นของ Generative AI แต่ในทางกลับกัน ความฉลาดของ AI กลับส่งผลกระทบให้กับคนในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะในองค์กรระดับโลก
Visualcapitalist อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Layoffs.fyi ที่รวบรวมข้อมูลด้านการเลิกจ้างของบริษัทเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ตลอดปี 2023 ทีผ่านมา มีข้อมูลว่า พนักงานสายเทคโนโลยี 1,186 บริษัท รวมกว่า 262,242 คนถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยตัวเลขที่น่าสนใจ คือ ในเดือน มกราคม 2024 สูงถึง เกือบ 90,000 คน
ขณะที่ช่วงต้นปี 2024 มีบริษัทถึง 42 บริษัท ก็ประกาศลดตำแหน่งงาน โดย บริษัทที่ลดตำแหน่งงานสูงสุด ได้แก่
1. Unity ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์วิดีโอเกม ตั้งเป้าเลิกจ้างพนักงานประมาณ 25% หรือ 1,800 ตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าต้องการที่จะรีเซ็ทบริษัทใหม่และมีการปรับปรุงในเรื่องของค่าทำเนียม
2. Wayfair บริษัท E-commerce ที่จำหน่ายเฟอร์นิเตอร์ ประกาศลดตำแหน่งาน 1,650 คน
3. Google ประกาศปลดพนักงาน 1,000 คน
นอกจากนี้ยังมีบริษัท Youtube , Amazon , Tiktok , Discord และ Instagram ก็ประกาศพนักงานอย่างสายฟ้าแลบ ซึ่งล้วนเป็นบริษัทเทคระดับโลกที่ได้รับนิยมจากผู้ใข้งาน แต่กลับประกาศปลดคนตั้งแต่ต้นปีนี้
Layoffs.fyi อัพเดทเพิ่มเติมว่า ในเดือนมกราคม 2024 มีพนักงานสายเทครวม 118 บริษัท รวมกว่า 30,995 คนถูกปลดออกจากตำแหน่งงานแล้ว แต่ตัวเลขนี้ถือว่า น้อยกว่าช่วง มกราคม 2023 ที่อยู่ที่เกือบ 90,000 คน แต่ยังมีใครรู้ว่า วิกฤตการลดตำแหน่งคนในระลอกนี้จะจบลงอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกเรียกว่า The Great Tech Layoff สะท้อนในเห็นว่า คนสายเทคที่อยู่ในอุตสาหกรรมทั่วโลกตอนนี้ อยู่ในภาวะเฟ้อ เกินความจำเป็นซึ่งสะสมมาตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 แต่เมื่อประชาชน เริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ประกอบการเข้ามาของเทคโนโลยีเอไอ ได้มาดิสรัป (disturb) ตำแหน่งงานของพวกเขาเหล่านี้
ขณะที่อีกปัจจัยที่มากระทบ คือ เรื่องของดอกเบี้ยขาขึ้น ในช่วงที่ผ่านมาและยังคงสูงอยู่ ทำให้ บริษัทเทคฯเหล่านี้ จึงต้องเผชิญกับภาวะสงครามดอกเบี้ย ที่กดดันกำไรของบริษัท จึงต้องหันมารัดเข็มขัด ต้นทุน นั่น ก็คือ ทรัพยกรคน นั่นเอง
จึงน่าติดตามว่า หลังจากนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะส่งผลกระทบกับตลาดการจ้างงานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในวงกว้างกว่านี้อีกหรือไม่
