ใกล้เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 สิ้นปีแบบนี้ หลายครอบครัวกำลังวางแผนเดินทางท่องเที่ยว เชื่อว่า มีคนจำนวนหนึ่งที่ชอบเดินทางด้วยการซื้อบริการทริปจากบริษัททัวร์ เพราะสะดวก สบาย บริหารเวลาได้ดี รวมถึงอาจจะคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่า
แต่ในขณะเดียวก็มีข้อกังวลเรื่องของเงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ กรณีหากมีเหตุจำเป็นต้องยกเลิกเดินทาง ว่าลูกค้าจะสามารถ ขอเงินคืนได้ หรือไม่ อย่างไร
ซึ่งทาง กรมการท่องเที่ยว หน่วยงานที่กำกับดูแล บริษัททัวร์ และมัคคุเทศก์ ได้ออกมาประชาสัมพันธ์ประกาศ เรื่อง “ซื้อทัวร์แล้วยกเลิกการเดินทางได้เงินคืนหรือไม่!? จ่ายเงินคืนอย่างไร”
แจกแจ้งไว้ชัดเจนว่า สิทธินี้เป็นของนักท่องเที่ยว ตามประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดอัตราการจ่ายเงินค่าบริการคืนให้แก่นักท่องเที่ยว พ.ศ. 2563 ดังนี้
ในกรณีมีเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้ ดังนี้
ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าก่อน 30 วัน ให้คืนในอัตราร้อยละ 100 ของเงินค่าบริการ หลังหักค่าใช้จ่ายจริงของบริษัททัวร์
ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าก่อน 15 วัน ให้คืนในอัตราร้อยละ 50 ของเงินค่าบริการ หลังหักค่าใช้จ่ายจริงของบริษัททัวร์
ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าก่อนน้อยกว่า 15 วัน ไม่ต้องคืนเงินค่าบริการ
ในกรณีมีเหตุให้ต้องยกเลิกการนำเที่ยวตามที่ได้โฆษณาไว้ โดยมิใช่ความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินค่าบริการคืนแก่นักท่องเที่ยว 100% หลังหักค่าใช้จ่ายจริงของบริษัททัวร์
สำหรับ ค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริงของบริษัททัวร์ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า ค่ามัดจำบัตรโดยสารเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ โดยต้องแสดงหลักฐานการจ่ายให้นักท่องเที่ยวทราบด้วย หากไม่ได้รับเงินค่าบริการคืนตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว สามารถร้องเรียนได้ที่ กรมการท่องเที่ยว
รัฐบาลชวนไทยเที่ยวไทย ช่วงไฮซีซั่น
ขณะที่ นายสัตว์แพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ขณะนี้เข้าสู่ช่วงปลายปี 2566 ที่เป็นช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาวของประเทศไทย ถือเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว ภาคเอกชนมีการออกบูทจำหน่ายทริปท่องเที่ยวทั้งแบบออนไลน์และออกบูทตามสถานที่ต่างๆ รัฐบาลขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว และประชาชนทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวของประเทศตามนโยบายรัฐบาล
จัด Festival ทั่วไทย ดันตลอดปี 66 ต่างชาติแตะ 28 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2.4 ล้านล้านบาท
ล่าสุด นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “Colorful Bangkok Winter Festival” เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านนโยบาย Soft Power 5fs (Festival) ณ พื้นที่ กรุงเทพมหานคร เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของชาวไทยและชาวต่างชาติ
กิจกรรมต่างๆ ได้แก่ กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำมหกรรมลอยกระทง กิจกรรม Amazing Thailand Passport Privileges กิจกรรม Amazing Thailand Marathon Bangkok, กิจกรรมวิจิตรเจ้าพระยา และ กิจกรรม Amazing Thailand Count down กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง จัดขึ้น ณ คลองผดุงกรุงเกษม
โดยมีไฮไลต์เป็นการจัดทําแลนด์มาร์คกระทงประดับไฟ 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด เพื่อสร้างการรับรู้ประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น จนเกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปสู่พื้นที่การจัดงานลอยกระทงที่มีอัตลักษณ์ นํามาสู่การสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว คาดว่าจะเกิดรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวจากการจัดกิจกรรม ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท
คาดการณ์ว่าในภาพรวมของพื้นที่ที่ ททท. จัดงานและ 5 พื้นที่อัตลักษณ์จะมีอัตราผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเข้าร่วมเพิ่มขึ้น 10% (จากเดิม 469,450 คน-ครั้ง) และสร้างรายได้หมุนเวียน เพิ่มขึ้น 7% (จากเดิม 1,960 ล้านบาท) เทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา
โดยเชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมนี้จะส่งผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของประเทศไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมายสร้างรายได้รวม 2.4 ล้านล้านบาท และจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน
