ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป จำกัด กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้ยกเลิกการใช้งานรถเมล์ประจำทางปรับอากาศก๊าซเอ็นจีวีอีก 57 คัน จากอู่สาขาปากเกร็ด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการยกเลิกรถใช้พลังงานก๊าซเอ็นจีวี มาใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100%
สำหรับรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติของบริษัทมีจำนวนทั้งสิ้น 350 คัน บริษัทได้ทยอยยกเลิกการใช้งานไปแล้ว 95% คาดว่าสิ้นเดือนมกราคมนี้ จะสามารถยกเลิกได้ทั้งหมดตามแผนที่วางไว้
เธอกล่าวด้วยว่า การยกเลิกทั้งหมดภายในเดือนมกราคมนี้ เพื่อนำไปสู่การใช้พลังงานที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) และสนับสนุนการผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำให้ได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ บริษัทได้เสริมรถเมล์โดยสารไฟฟ้าชุดใหม่ เพื่อเพิ่มความถี่ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ ตามแนวทางกรมการขนส่งทางบก และนโยบาย Quick Win ของกระทรวงคมนาคม

ส่วนด้าน ไทย สมายล์ โบ้ท จะกลับมาให้บริการเรือโดยสาร สายสีน้ำเงิน Metro Line ภายในไตรมาส 1 ปี 2567 พร้อมเติมฟลีทเรือ เรือท่องเที่ยวพลังงานไฟฟ้า 100% เข้ามาพัฒนาบริการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำด้วยพลังงานสะอาดของไทยด้วย

ไทย สมายล์ กรุ๊ป มีเส้นทางรถโดยสารให้บริการทั้งสิ้น 123 เส้นทาง มีรถเมล์ไฟฟ้า (EV) กว่า 2,200 คัน และมีแผนลงทุน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดหารถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 3,100 คัน ต้นทุนคันละ 7 ล้านบาท ในช่วงกลางปี 2567 ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 3 แสนคนต่อวัน รายได้ 6 ล้านบาทต่อวัน หรือประมาณ 3,000 บาทต่อคันต่อวัน ตั้งเป้าผู้โดยสารใช้บริการเพิ่ม 5 แสน - 1 ล้านคนต่อวัน มีรายได้ 14-15 ล้านบาทต่อวัน หรือเฉลี่ย 6,500 บาทต่อคันต่อวัน
โดยได้เพิ่มความถี่ เพิ่มจำนวนรถ เพิ่มจำนวนรอบ ไปจนถึงการขยายเวลาการวิ่งให้บริการเป็น 24 ชั่วโมง ใน 4 เส้นทาง จำนวนผู้โดยสารปัจจุบันยังต่ำกว่าเป้า ส่งผลให้บริษัทขาดทุนอยู่ประมาณ 200 ล้านบาทต่อเดือน โดยตั้งเป้าว่าจะคืนทุนภายในปี 2570