ประหยัดไฟ เบอร์ 5 เมื่อใช้กับ ‘อาคาร-โรงงาน’!?

4 มิ.ย. 2567 - 02:00

  • ไม่เฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จะมีฉลากประหยัดไฟ เบอร์ 5

  • ปัจจุบัน มาตรฐานเบอร์ 5 ยังเข้าไปคลุมถึง ‘อาคารและโรงงาน’ บ่งบอกประสิทธิภาพการประกอบการที่ประหยัดพลังงาน เบอร์ 5 ด้วย

  • โดยขณะนี้ พพ.-กฟผ. ผนึกกำลัง ร่วมสร้างมาตรฐานเรื่องนี้แล้ว

energy_saving_label_number5_building_factory_SPACEBAR_Hero_8de9ab2a11.jpg

พพ. - กฟผ. ร่วมสร้างมาตรฐานฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงานของอาคารและโรงงานเบอร์ 5 ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือยกระดับประสิทธิภาพพลังงานของโรงงานและอาคาร ส่งเสริมผู้ประกอบการติดฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงานเบอร์ 5 รวมทั้ง เตรียมความพร้อมรับการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการประหยัดพลังงานของไทยและสากล

ความร่วมมือครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของ 2 หน่วยงาน คือกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือยกระดับประสิทธิภาพพลังงานของโรงงานและอาคารที่มีอยู่เดิม ด้วยการติดฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงาน เมื่อ 29 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา 

วัฒนพงษ์ คุโรวาท อธิบดี พพ. เผย ความร่วมมือนี้ พพ.และกฟผ. จะร่วมกันกำหนดเกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานของโรงงานและอาคาร ส่งเสริมกระบวนการติดฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงานเบอร์ 5 ให้แก่โรงงานและอาคารที่สามารถผ่านเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงาน ได้ 500 ktoe (พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ) ต่อปี ช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 5,864 ล้านหน่วย ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 3.2 ล้านตัน ภายในปี 2580

เช่นเดียวกับ เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. ที่ชี้ กฟผ. ได้ดำเนินงานบริหารจัดการด้านการใช้พลังงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินโครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 เป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ติดฉลากฯ แล้วกว่า 470 ล้านดวง ลดการใช้ไฟฟ้ากว่า 37,000 ล้านหน่วย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 20 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้ดำเนินโครงการที่ปรึกษาพลังงาน มุ่งเน้นการให้คำปรึกษาในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอาคารและโรงงานมาต่อเนื่องด้วย

การร่วมมือกับ พพ. ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงผลลัพธ์ของการใช้พลังงานในอาคารและโรงงานที่มีอยู่เดิมผ่านการกำหนดค่าประสิทธิภาพพลังงาน เตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการภาคอาคารและโรงงานสำหรับการบังคับใช้กฎหมายประหยัดพลังงานของประเทศไทยและการบังคับใช้มาตรการระดับสากลที่มีผลต่อธุรกิจในประเทศไทย รวมทั้งบูรณาการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของการใช้พลังงานในภาคอาคารและโรงงาน เพื่อการตัดสินใจเชิงนโยบายหรือดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พลังงานของประเทศไทยในอนาคต

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการร่วมกันสร้างกลไกที่สำคัญและเป็นแนวทางที่มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานสูง สร้างผลลัพธ์เชิงบวกด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนต่อไป

energy_saving_label_number5_building_factory_SPACEBAR_Photo01_c7bf4c2078.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์