สมาคมชาวนา แถลงขอราคาข้าว 1-1.2 หมื่นบาท/ตัน

21 ก.พ. 2568 - 09:36

  • สมาคมชาวนาฯ ออกแถลงการณ์ ค้านมติอนุฯ นบข.ที่ออก 3 มาตรการ ดูแลผลผลิตข้าวนาปรัง

  • เผย เป็นมาตรการที่ยังไม่แก้ปัญหาเดือดร้อน ขอนุฯ นบข.ด้านการตลาด ทบทวนราคารับซื้อข้าวนาปรัง ปีการผลิต 2567/68 ใหม่

  • ย้ำราคาต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน สำหรับความชื้น 25% ส่วนข้าวความชื้น 15% ต้องได้ 12,000 บาท/ตัน

farmers-association-statement-increase-price-rice-SPACEBAR-Hero.jpg

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผย ตามที่คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข.ได้ประชุม และมีมติกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านราคาข้าวนาปรังปีการผลิต 2568 ที่ราคาไม่ต่ำกว่า 8,000 บาท พร้อมออก 3 มาตรการให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย

1. ขยายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ระยะเวลา 1-5 เดือน ในพื้นที่ 72 จังหวัด ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13 ล้านบาท 
2. การเพิ่มช่องทางการตลาดในประเทศโดยเปิดจุดรับซื้อ รัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท ผู้ประกอบการช่วยซื้อในราคานำตลาด 300 บาทต่อตัน เป้าหมาย 300,000 ตัน ในพื้นที่ 72 จังหวัด งบประมาณ 150 ล้านบาท เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ต้องการจะขายเลย 
3. โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกข้าว ช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการ 6% สำหรับผู้ประกอบการเก็บสต็อก 2 – 6 เดือน และผู้ประกอบการรับซื้อราคาสูงกว่าตลาด 200 บ./ตัน ขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40 ล้านบาท โดยทั้ง 3 มาตรการ ใช้งบประมาณรวม 1,893.53 ล้านบาท นั้น

นายปราโมทย์ ชี้ว่า ในประเด็นการกำหนดราคารับซื้อข้าวแห้งที่ 8,500 บาท/ตัน รวมถึงมาตรการที่จะให้สหกรณ์ดำเนินการรับซื้อหรือรับฝาก โดยสหกรณ์ได้ 500 บาท/ตัน ชาวนาได้ 1,000 บาท/ตันนั้น ถือเป็นประเด็นที่ ฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการ นบข. ด้านการตลาด เป็นผู้นำเสนอ ไม่ใช่ข้อเสนอของสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยแต่อย่างใด

ดังนั้น ขณะนี้สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้หารือกับนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยอีกครั้ง พร้อมเห็นพ้องว่า มาตรการที่รัฐจัดให้ มีข้อจำกัดที่อาจส่งผลเสียต่อการใช้งบประมาณ การเปิดช่องโอกาสให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย รวมถึงความไม่พร้อมในเรื่ององค์ประกอบในสถาบันที่ร่วมโครงการ ที่สำคัญ มาตรการต่างๆ ที่ออกมา ถือว่า ยังไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามมติกรรมการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจึงเห็นพ้องว่า ขอให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ด้านการตลาดทบทวนและวางมาตรการใหม่ตามที่เกษตรกรร้องขอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และป้องกันการสุ่มเสี่ยงทางเสถียรภาพของรัฐบาล ดังนี้ 

1. พิจารณาราคาข้าวตามความชื้น : ขอให้ภาครัฐพิจารนามาตรการประกันราคาผลผลิตข้าวเปลือกจ้าวในฤดูนาปรังปีการผลิต 2568 สำหรับความชื้นไม่เกิน 15% ราคาไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท/ตัน ส่วนความชื้นไม่เกิน 25% ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท/ตัน

2. มาตรการงดเผาตอซังฟางข้าว : ขอให้ภาครัฐพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในกรณี งดเผาตอซังฟางข้าว ไร่ละ 500 บาท ตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้

3. ปุ๋ยยาราคาแพง : ขอให้ภาครัฐควบคุมปัจจัยการผลิตเช่น ปุ๋ย ยา และน้ำมันเชื้อเพลิง 

4. เงินชดเชยทุ่งรับน้ำ : ขอให้ภาครัฐพิจารณาหาแนวทางชดเชยพื้นที่เกษตรกรที่ใช้เป็นทุ่งรับน้ำ ตามที่เกษตรกรร้องขอ 

5. โครงการไร่ละพัน : ขอให้ภาครัฐพิจารณาโครงการไร่ละ 1,000 บาทให้ยังคงเดิม อันเป็นการวางมาตรการความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนการผลิต

ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการต่างๆ ภาครัฐต้องพิจารณาถึงกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเก็บเกี่ยวไปแล้วให้ได้รับสิทธิ์ในมาตรการดังกล่าวทุกมาตรการโดยเท่าเทียมกัน

farmers-association-statement-increase-price-rice-SPACEBAR-Photo01.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์