นายกฯ สั่ง ครม.ศก. จัดแพ็คเกจกระตุ้น ศก.ใน 2 สัปดาห์

27 พ.ค. 2567 - 13:36

  • ‘พิชัย’ เผย ครม.เศรษฐกิจ นัดแรก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังไม่ชัด

  • เบื้องต้น นายกฯ สั่งแก้ปัญหาสภาพคล่อง โดยเฉพาะ SMEs เข้าถึงแหล่งทุน

  • ฝากการบ้าน ครม.เศรษฐกิจ คลอดแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ใน 2 สัปดาห์

finance-minister-phichai-first-economic-cabinet-statement-SPACEBAR-Hero.jpg

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้านเศรษฐกิจ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจทุกด้าน และเห็นถึงความจำเป็นในการหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานไปจัดทำรายละเอียดมาเสนออีกครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ในการหารือทุกหน่วยงานได้มีการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจในด้านต่างๆ ให้กับที่ประชุมรับทราบภายหลังจากเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาด อยู่ที่ 1.5% และทั้งปี สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 2.5% เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขทั้งระยะสั้นแบบเฉพาะหน้า ระยะกลาง และระยะยาว

“การประชุมวันนี้ยังไม่ได้มีมาตรการออกมาชัด ๆ แต่สิ่งที่มองเห็นคือต้องเร่งแก้ปัญหาสภาพคล่อง เพื่อช่วยให้คนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็นเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้า และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เข้าร่วมประชุมและเห็นด้วยถึงปัญหา โดยความจำเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต้องมี”

นายพิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น กระทรวงการคลังจะพยายามหางบประมาณมากระตุ้น ล่าสุด ก็ได้มีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ 2568 ก็ตั้งไว้อีก 1.6 แสนล้าน เมื่อรวม 2 ปีงบประมาณ จะมีเงินประมาณ 3 แสนล้านบาท

ขณะเดียวกันยังเตรียมมอบหมายให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ออกโครงการมาช่วยเติมสภาพคล่อง และแก้ปัญหาหนี้สิน ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยเอง ก็ต้องหารือกับธนาคารพาณิชย์ ให้มีความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และหาทางช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินได้สะดวกมากขึ้น

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการหนึ่งที่เตรียมจะออกมาในเร็วๆ นี้ คือมาตรการค้ำประกันสินเชื่อ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หรือ PGS รอบที่ 11 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งในรอบนี้จะเพิ่มเงื่อนไขในการปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอีรายใหม่ก่อนเป็นลำดับแรก คาดว่า มาตรการนี้ จะเสนอให้ ครม. เห็นชอบได้ภายใน 2 – 3 สัปดาห์นี้ 

สำหรับ ภาคท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเดียวที่พอกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพียงแต่ขณะนี้เป็นช่วงโลว์ซีซัน นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หาทางกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น โดยเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเป็นหลัก พร้อมกันนี้ กระทรวงการคลัง ยังเตรียมมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองท่องเที่ยวรอง ซึ่งตอนนี้มีรายละเอียดแล้วและจะประกาศออกมาเร็วๆ นี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการด้านภาษีนั้น กระทรวงการคลัง จะเตรียมนำมาเสนอที่ประชุมรับทราบอีกครั้ง เช่น ภาษีสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนกลไกของคาร์บอนเครดิต มุ่งสู่สังคมสีเขียว รวมทั้งยังหารือถึงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อดำเนินการจัดเก็บภาษี Global Minimum Tax หรือการกำหนดให้ธุรกิจมีการเสียภาษีขั้นต่ำ ที่อัตรา 15% ตามข้อตกลงร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเป็นธรรมในด้านการจัดเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งจะเสนอ ครม. และนำเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎร ต่อไป

“รมว.คลัง ได้นำเสนอการขับเคลื่อน และกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งมีความสำคัญ เชื่อว่าจะออกมาในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แต่ระหว่างที่รอดิจิทัลวอลเล็ต ปลัดกระทรวงการคลัง เสนอว่า ควรคิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระหว่างนี้ถึงปลายปี ซึ่งแต่ละหน่วยงานได้รับเป็นโจทย์และจะนำมาหารืออีกครั้ง”

นายจุลพันธ์ กล่าว

finance-minister-phichai-first-economic-cabinet-statement-SPACEBAR-Photo01.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์