นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผย ภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ ไตรมาส 2 – 3 ปี 2567 ยังคงติดลบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถือว่าติดลบน้อยกว่าไตรมาส 1 สะท้อนถึงตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น หลังจากได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% ให้กับที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท จากเดิมไม่เกิน 3 ล้านบาทเท่านั้น จึงทำให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด ในขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวันของปีก่อน
สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบและอาคารชุดในไตรมาส 3 มีจำนวน 90,628 ยูนิต ลดลง -4.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 94,946 ยูนิต และมีมูลค่า 253,252 ล้านบาท ลดลง -5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีมูลค่า 267,655 ล้านบาท
โดยมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% มีผลช่วยทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2 และ ไตรมาส 3 ติดลบน้อยลง โดยเห็นได้จากไตรมาส 1 จำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ ติดลบ -13.8% และ -13.4% แต่ในไตรมาส 2 การโอนกรรมสิทธิ์ติดลบน้อยลง โดยจำนวนหน่วยและมูลค่าติดลบ -4.5% และ -5.7% และในไตรมาส 3 จำนวนหน่วยลดลง -4.5% และมูลค่าลดลง -5.4%

ขณะที่ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติ ไตรมาส 3 ปี 2567 พบว่า มีจำนวน 3,756 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.6 และมีมูลค่าการโอน 18,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติ 3 ไตรมาสแรกของปี 2567 มีจำนวน 11,036 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.1 แต่มีมูลค่าการโอนลดลง 1.5% อยู่ที่ 51,458 ล้านบาท
โดยกลุ่มหลักจากจีน และ รัสเซีย แม้จะมีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากในอันดับต้น ๆ แต่มีจำนวนและมูลค่าลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่พม่าและไต้หวัน มีจำนวนหน่วย และมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“เมื่อดูหน่วยโอนจีนลดลง 12.1% รัสเซียลดลง 16.8% ส่วนมูลค่าจีนลดลง 18.3% รัสเซีย ลดลง 20% เป็นเพราะเศรษฐกิจภายในของประเทศ ส่วนพม่ามีหน่วยโอนเพิ่มขึ้น 202.6% ไต้หวันเพิ่มขึ้น 61.9% ด้านมูลค่า พม่าเพิ่มขึ้น 142.9% ไต้หวันเพิ่มขึ้น 72% เป็นเพราะมีปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศอย่างรุนแรง ทำให้คนที่มีเงินกระจายออกมาซื้ออสังหาฯในเมืองไทย โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว ทำให้ห้องชุดขายดี โดยเฉพาะภูเก็ตที่ยอดโอนสูง”
นายกมลภพ กล่าว

นายกมลภพ ยังเผยถึงชาวต่างชาติ 10 ประเทศแรก ที่มีการโอนห้องชุดมากที่สุด สะสม 3 ไตรมาส ปี 2567 ประกอบด้วย
อันดับ 1 จีน จำนวน 4,386 หน่วย มูลค่า 20,201 ล้านบาท
อันดับ 2 พม่า จำนวน 1,050 หน่วย มูลค่า 5,463 ล้านบาท
อันดับ 3 ไต้หวัน จำนวน 612 หน่วย มูลค่า 3,166 ล้านบาท
อันดับ 4 รัสเซีย จำนวน 800 หน่วย มูลค่า 2,750 ล้านบาท
อันดับ 5 สหรัฐอเมริกา จำนวน 436 หน่วย มูลค่า 2,297 ล้านบาท
อันดับ 6 ฝรั่งเศส จำนวน 403 หน่วย มูลค่า 1,763 ล้านบาท
อันดับ 7 เยอรมัน จำนวน 334 หน่วย มูลค่า 1,460 ล้านบาท
อันดับ 8 อินเดีย จำนวน 198 หน่วย มูลค่า 1,248 ล้านบาท
อันดับ 9 สหราชอาณาจักร จำนวน 303 หน่วย มูลค่า 1,201 ล้านบาท
อันดับ 10 ออสเตรเลีย จำนวน 218 หน่วย มูลค่า 1,116 ล้านบาท
