มาตรการ EV3.5 เริ่มปี 67 ผู้ประกอบการ-ผู้นำเข้าอยากรับสิทธิ์ต้องทำอย่างไร?

21 ธันวาคม 2566 - 09:52

spacebar, สเปซบาร์, EV, รถยนต์ไฟฟ้า, เงินอุดหนุน, ลดภาษี, มาตรการ EV3.5, ภาษีสรรพสามิต, วิธีลงทะเบียนรับสิทธิ
  • วิธียื่นหนังสือรับสิทธิ์ มาตรการ EV3.5 ของผู้นำเข้า-ผู้ประกอบการ EV

หลัง “บอร์ดอีวี” หรือคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติที่มี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รับไม้ต่อโดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการ EV3.5 หรือ มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 ในช่วง 4 ปี (พ.ศ.2567-2570) เพื่อผลักดันไทยเป็นฮับการผลิต EV ของภูมิภาค

ประเด็นหลักของ มาตรการ EV3.5 คือ ให้เงินอุดหนุน-ลดภาษี-เพิ่มการลงทุน หวังส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นฮับการผลิต EV ในอาเซียน (อ่านรายละเอียดมาตรการ EV 3.5 ได้ ที่นี่) และจะเริ่มต้น 2 มกราคม ปี 2567

ผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ต้องดำเนินการอย่างไร เตรียมตัวได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

spacebar, สเปซบาร์, EV, รถยนต์ไฟฟ้า, เงินอุดหนุน, ลดภาษี, มาตรการ EV3.5, ภาษีสรรพสามิต, วิธีลงทะเบียนรับสิทธิ
Photo: มาตรการ EV3.5 เริ่มปี 67 ผู้ประกอบการ-ผู้นำเข้า อยากรับสิทธิ์ต้องทำอย่างไร
  1. ต้องยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับสิทธิ และมีการทำข้อตกลง (MOU) ให้เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3.5 ร่วมกับกรมสรรพสามิต
  2. เมื่อได้รับการอนุมัติสิทธิแล้ว ผู้ขอใช้สิทธิจะต้องได้รับอนุมัติราคาขายปลีกแนะนำและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติยานยนต์ไฟฟ้าก่อนเริ่มขายรถรุ่นนั้นๆ
  3. กรณีนำเข้า ผู้นำเข้าต้องปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 ให้แล้วเสร็จก่อนการนำเข้า จึงจะสามารถนำยานยนต์ไฟฟ้ามาขอรับสิทธิทางภาษีได้
  4. การขอรับเงินอุดหนุนหลังจากการจำหน่ายและจดทะเบียนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด
  5. สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงเงื่อนไขการผลิตชดเชย บทลงโทษ ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ ตามมาตรการ EV3.5 ให้เป็นไปตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด

สำหรับ ยานยนต์ไฟฟ้าที่เคยได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3.0 อยู่แล้ว แต่ไม่สามารถจำหน่ายได้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และประสงค์ที่นำยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวมารับสิทธิตามมาตรการ EV3.5 สามารถทำได้ โดยมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้

  1. ผู้ขอรับสิทธิต้องยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับสิทธิ และมีการทำข้อตกลง (MOU) เพื่อเป็นผู้ได้สิทธิตามมาตรการ EV3.5 และต้องได้รับอนุมัติราคาขายปลีกแนะนำและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติยานยนต์ไฟฟ้าที่ก่อนเริ่มจำหน่าย
  2. หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผู้ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3.0 ต้องยื่นหนังสือเพื่อแจ้งจำนวนคงเหลือของยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิตาม EV3.0 แต่ไม่สามารถจำหน่ายได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ให้กรมสรรพสามิตทราบ ก่อนลงนามข้อตกลง EV3.5 กับกรมสรรพสามิต
  3. ยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับสิทธิตาม EV3.0 แต่ประสงค์จะนำมาเข้าร่วมมมาตรการ EV 3.5 จะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีตามมาตรการ EV3.0 แต่เงินอุดหนุนและเงื่อนไขการผลิตชดเชย ตลอดจนบทลงโทษ และเงื่อนไขอื่นๆ ให้เป็นไปตามมาตรการ EV3.5

ทั้งนี้ ยานยนต์ไฟฟ้าที่เคยได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3.0 แต่ไม่สามารถจำหน่ายได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และไม่ประสงค์ที่นำยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวมารับสิทธิตามมาตรการ EV3.5 ต่อ จะยังคงมีภาระในการผลิตชดเชยการนำเข้าตามเงื่อนไขของมาตรการ EV3.0 โดยไม่ต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีที่ได้รับไปแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์