เริ่มแล้ว! สำหรับงาน iCreator Conference 2023 Presented by SUPALAI งานที่รวบรวมเหล่าครีเอเตอร์คนดังมากมายมาแบ่งปันประสบการณ์ แชร์ความรู้ รวมถึงจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับคนในวงการครีเอเตอร์และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน
ครีเอเตอร์ในประเทศไทยถือว่าเติบโตเป็นอย่างมาก และคนในประเทศก็ได้รับแรงกระเพื่อมจากคอนเทนต์หรือโฆษณาของครีเอเตอร์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งนี้แม้ธุรกิจในวงการครีเอเตอร์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีหลายสิ่งที่ควรได้รับการสนับสนุนรวมถึงสิทธิประโยชน์หลายด้านอย่างเท่าเทียมกับอาชีพอื่นๆ
เซสชันแรกของ ในหัวข้อ ‘The Power of Creator Policy ร่วมผลักดันนโยบาย พลังใหม่แห่งวงการครีเอเตอร์’ โดยคุณเอ็ม ขจร เจียรนัยพานิชย์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ RAiNMaker และงาน iCreator Conference ได้แบ่งปันข้อมูลไว้ว่า ‘แม้อาชีพครีเอเตอร์จะได้รับความนิยมและเติบโตสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก แต่หลายคนที่ออกมาทำเป็นอาชีพหลักก็ได้ประสบถึงปัญหาในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมกับทางธนาคารเช่น เครดิตทางการเงิน หรือแม้แต่การทำเอกสารทางราชการเองด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อว่าปี 2024 จะเป็นปีของ Creator ID หรือ Identity เป็นปีแห่งการหาตัวตนและความชัดเจน จึงเป็นที่มาของ 7 นโยบายที่คนในวงการครีเอเตอร์อยากผลักดันเข้าสู่สภา’
7 นโยบายที่คนในวงการครีเอเตอร์อยากผลักดัน
1.Creator Tax การควบคุมภาษีครีเอเตอร์
ปัญหา
- เม็ดเงินโฆษณาสื่อออนไลน์ออกนอกประเทศสูง
- ประเทศไทยหมดเงินไปกับการ Boost Post บนแพลตฟอร์ม
- ประเทศไทยไม่มีช่องทาง หรือแพลตฟอร์มสนับสนุนสื่อจากครีเอเตอร์ หรือแบรนด์
- แบรนด์ และครีเอเตอร์จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มโซเชียลต่างประเทศไว้โพสต์คอนเทนต์
นโยบาย
- นโยบายซื้อสื่อครีเอเตอร์ไทย สามารถหักภาษีได้ 200%
- สร้างแพลตฟอร์มที่ครีเอเตอร์ ฟรีแลนซ์ติดต่อกับผู้จ้างได้โดยตรง
- สนับสนุนการซื้อสื่อของครีเอเตอร์ภายในประเทศมากขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ดันให้แบรนด์ เอเจนซี สนับสนุนวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ไทย
- ลดอัตราการ Boost Post และลดการจ่ายเงินออกนอกประเทศ
- พร้อมนำเงินเข้าประเทศมากขึ้น โดยรัฐเก็บภาษี 7% (ทำให้รัฐบาลมีภาษีวนในประเทศเพื่อพัฒนาประเทศ)
2.Creator as a Career การบรรจุอาชีพครีเอเตอร์
ปัญหา
- ครีเอเตอร์ปัจจุบัน คือ อาชีพฟรีแลนซ์
- ครีเอเตอร์ไม่ได้บรรจุเป็นอาชีพ จึงยากต่อการผลิตบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรม
- ทุกคนสามารถเป็นครีเอเตอร์ได้ เพียงแค่มีช่องทางของตัวเอง
- การเป็นครีเอเตอร์ ไม่ต้องสอบใบประกอบวิชาชีพ
นโยบาย
- บรรจุครีเอเตอร์เป็นอาชีพ แทนการใช้คำว่า ‘ฟรีแลนซ์’
- สร้างความเข้าใจกับผู้คนเรื่องอาชีพครีเอเตอร์ว่าสร้างรายได้ และมั่นคง
- มีการทดสอบเพื่อแลกกับใบประกอบวิชาชีพ
- สร้างจรรยาบรรณ และสร้างตัวตนให้ครีเอเตอร์
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ครีเอเตอร์กลายเป็นอาชีพที่มีจรรยาบรรณวิชาชีพ
- อาชีพครีเอเตอร์สร้างรายได้อย่างมั่นคง
- ครีเอเตอร์มีสหภาพแรงงานรองรับ
3. Creator’s Social Welfare สวัสดิการ ประกันสังคมครีเอเตอร์
ปัญหา
- ครีเอเตอร์จัดอยู่ในกลุ่มระบบประกันสังคม ม.40 (ผู้ประกอบอาชีพอิสระ)
- สิทธิ์ที่ได้รับถูกจัดอยู่ในกลุ่มระบบประกันสังคม ม.40 (ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) มีทางเลือกการจ่ายเงินสมทบและรับสิทธิประโยชน์ทั้งหมด 3 ทางเท่านั้น
- ผู้ประกันตน ม.40 บังคับให้จ่ายสูงสุดได้แค่ 300 บาท/เดือน ทำให้สิทธิ์ไม่เท่าเทียมกับผู้ประกันตน ม.39 ที่จ่าย 432 บาท/เดือน
- เมื่อเกิดวิกฤตมีแค่บางอาชีพที่รัฐบาลช่วยเหลือชดเชยเงินเยียวยา
นโยบาย
- เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกันตน ม.40 ที่ทำอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์
- สามารถสมัครใจจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อให้ได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกับผู้ประกันตน ม.39
- เพิ่มโอกาสให้รัฐบาล และสมาคมออกเงินเยียวยาครีเอเตอร์
ประโยชน์ที่ได้รับ
- สามารถมีทางเลือกจ่ายเงินรับประกันสังคมของตัวเอง ตามสมัครใจมากขึ้น
- มีประกันสังคมที่มั่นคง และครอบคลุมมากขึ้น
- ผลักดันให้ครีเอเตอร์สร้างผลงาน และหารายได้เข้าประเทศเพิ่ม
4. Creator Association การรวบรวมกลุ่มสู่สมาคมครีเอเตอร์
ปัญหา
- วงการโฆษณา ภาพยนตร์ และการออกแบบต่างก็มีสมาคมที่ครอบคลุมด้านการให้คุณค่าทางผลงา แต่ประเทศไทยยังไม่มีสมาคมครีเอเตอร์
- ประเทศไทยมี CUT เครือข่ายอิสระหรือสหภาพแรงงานสร้างสรรค์แต่ยังไม่มีสหภาพแรงงานครีเอเตอร์
นโยบาย
- สร้างการรวมกลุ่มเป็นสมาคมครีเอเตอร์ไทยโดยมีกำหนดเกณฑ์การเป็นครีเอเตอร์ที่รับรู้ร่วมกันอย่างชัดเจน
- สร้างจรรยาบรรณวิชาชีพครีเอเตอร์ให้ครอบคลุมทั้งการทำงานและสวัสดิการไปจนถึงทางกฎหมาย และสุขภาพจิต
- ตั้งสมาคมครีเอเตอร์ไทยพร้อมหน่วยงานที่สนับสนุน เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านทุน เช่น อุปกรณ์ และการให้เช่าพื้นที่ หรือสตูดิโอ
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ครีเอเตอร์ไทยจะมีสมาคมคอยช่วยเหลือ รองรับการทำงาน เสมือนอาชีพหนึ่งในทุกด้าน
- ครีเอเตอร์สามารถสร้างผลงาน แลละส่งออก Soft Power สู่ตลาดโลกได้มากขึ้น
5. Creator Fund กองทุนสนับสนุนครีเอเตอร์
ปัญหา
- ครีเอเตอร์ต้องใช้ต้นทุนในการผลิตสูง ทั้งอุปกรณ์ และสถานที่
- ไม่มีโอกาสเข้าถึงอุปกรณ์ที่ดีเพียงพอ
- ขาดการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ ทำให้มีข้อจำกัดในการทำคอนเทนต์
- ส่วนมากมีกองทุนสนับสนุนการผลิตสื่อสร้างสรรค์ด้านอื่น แต่มักไม่รวมครีเอเตอร์
นโยบาย
- เพิ่มงบประมาณให้กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และขยายขอบเขต ให้ครอบคลุมครีเอเตอร์มากขึ้น
- จัดตั้ง Creative Center เป็นศูนย์กลางให้ครีเอเตอร์สามารถขอทุนและยืมอุปกรณ์ ภาครัฐสนับสนุนเงินค่าตอบแทนเมื่อครีเอเตอร์สามารถส่งออก Soft Power ได้
- เพื่อผลักดันให้เกิดการแข่งขันและพัฒนาคอนเทนต์
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ภาครัฐสนับสนุนเงินทุนอุปกรณ์ และโอกาสต่างๆ ทำให้ครีเอเตอร์มีโอกาสสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและส่งออกนอกประเทศ รวมถึงสร้าง Soft Power ของไทยได้
- ครีเอเตอร์เข้าถึงอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์มากขึ้น ทำให้สามารกยกระดับคุณภาพคอนเทนต์ได้
- ครีเอเตอร์ประหยัดต้นทุน อุปกรณ์ หรือสถานที่ ได้มากขึ้น และสามารถนำเงินไปลงทุนกับส่วนอื่น ๆเพื่อเพิ่มคุณภาพคอนเทนต์
6. Creator Voucher เพิ่มทักษะการสร้างคอนเทนต์
ปัญหา
- ทักษะเกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหลักสูตรพื้นฐานในสถานศึกษา หากไม่ใช่สายเรียนหรือคณะที่เกี่ยวข้องโดยตรง จึงต้องไปหาคอร์สเรียนเสริมเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมเอง
- คอร์สเรียนเสริมทักษะเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ค่อนข้างสูง
นโยบาย
- เพิ่มสถานศึกษาหรือศูนย์ฝึกที่รวมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสนับสนุนแหล่งเรียนรู้ให้คนสามารถนำ Voucher มาเรียนเสริมทักษะต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำคอนเทนต์
- แจก Voucher ให้เรียนเสริมทักษะนอกห้องเรียน และเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวงการครีเอเตอร์ได้ในงบ 2,000 บาทปี ต่อคน ภายใต้หลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์เท่านั้น เช่น การเรียนยิง Ads, การเรียนวิธีการทำ SEO หรือการตัดต่อวิดีโอ เป็นต้น
- Voucher รายปี จะมีการกำหนดเกณฑ์ผู้รับ รวมถึงขอบเขตคอร์สเรียนชัดเจน โดยต้องมีอายุตั้งแต่ 18-30 ปี
- กระจายรายได้และสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญในวงการหันมาพัฒนาการสอน โดยการพาร์ตเนอร์กับศูนย์ฝึก เอเจนซี หรือครีเอเตอร์ที่เป็นเทรนแนอร์
ประโยชน์ที่ได้รับ
- ได้รับ Voucher เรียนฟรีรายปี เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะสู่การเป็นครีเอเตอร์จากนอกห้องเรียน รวมถึงสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับวงการครีเอเตอร์ได้
- เปิดโอกาสให้คนมีทางเลือกในการเรียนรู้เสริมทักษะการทำคอนเทนต์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะการสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง
- เกิดการหมุนเวียนรายได้วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เพราะคนนำ Voucher เรียนฟรีมาใช้กับพาร์ตเนอร์ที่ร่วมโครงการ
7. Creator Class ยกระดับการศึกษาสู่การเป็นครีเอเตอร์
ปัญหา
- นอกจากคณะตามมหาวิทยาลัยแล้ว น้อยมากที่ตามโรงเรียนจะมีหลักสูตร เปิดสอนทักษะเกี่ยวกับการเป็นครีเอเตอร์
- หลักสูตรคณะที่เกี่ยวข้องกับวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เช่น คณะนิเทศศาสตร์บางแห่งยังไม่ครอบคลุม หรือตามทันโลก รวมถึงขาดการเข้าถึงอุปกรณ์ที่เพียงพอและเหมาะสม
- ประชาชนยังขาดการปลูกฝังเรื่องการรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) อย่างเหมาะสม ทั้งที่ปัจจุบันโลกอยู่ในยุคดิจิทัลที่ทุกคนควรมีความรู้เกี่ยวกับการเสพและผลิตสื่อในทุกระดับการศึกษา
นโยบาย
- เพิ่มวิชาทางเลือกที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างทักษะการเป็นครีเอเตอร์ในทุกระดับการศึกษา
- ยกระดับหลักสูตรการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ และคณะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทักษะในการต่อยอดสู่การเป็นครีเอเตอร์
- รัฐบาลสนับสนุนสถานที่และอุปกรณ์ในการเรียนการสอนให้ครบถ้วน เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่สมจริง
- จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเป็นครีเอเตอร์ เช่น จัดการประกวด, จัดค่ายอบรมหรือจัดกิจกรรม Workshop เป็นต้น
ประโยชน์ที่ได้รับ
- มีโอกาสได้เลือกวิชาเสริมทักษะการเป็นครีเอเตอร์ แม้ไม่ได้เรียนในคณะหรือสาขาที่เกี่ยวข้องโดยตรง
- มีโอกาสได้เลือกวิชาเสริมทักษะการเป็นครีเอเตอร์ นักศึกษาในคณะที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างคณะนิเทศศาสตร์ได้มีโอกาสเข้าถึงหลักสูตรที่ตามทันโลก และอุปกรณ์ที่เพรียบพร้อมในการเรียนการสอน ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริงในอนาคต
- มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์การพัฒนาทักษะ ได้เข้าถึงและเข้าร่วมการพัฒนาทักษะการเป็นครีเอเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มทักษะและศักยภาพในการสร้างสรรค์คอนเทนต์
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถอัปเดตข้อมูลข่าวสารในแวดวงครีเอเตอร์และติดตามการจัดงานครั้ง ต่อไป ได้ที่ www.rainmaker.in.th , Facebook Page : RAiNMaker และ Twitter @rainmakerth #iCreator2023 #iCreatorConference