นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยถึงการขนย้ายกากแคดเมียม ว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องสภาพอากาศ หากมีฝนตกลงมา อาจทำให้กากแคดเมียมที่อยู่นอกอาคารไหลปนเปื้อนไปกับน้ำ จึงพยายามขนส่วนที่อยู่ด้านนอกเข้าไปเก็บในอาคาร และพยายามให้เป็นไปตามแผน โดยพยายามปรับอย่างต่อเนื่อง เพื่อคลายความกังวลให้ประชาชน เช่นขณะนี้ เรื่องรถขนส่ง ก็เปลี่ยนมาใช้ตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด
สำหรับการขนส่งเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.67) ออกจากจังหวัดสมุทรสาครไปแล้ว 8 คัน ถึงที่หมายจังหวัดตาก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้กำลังเคลื่อนถุงลงจากรถ โดยพยายามทำตามกำหนดการ ถ้ามีรถเพิ่มขึ้นก็จะดีที่สุด
ส่วนกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น รัฐมนตรีว่าการ พิมพ์ภัทรา ระบุว่า ส่วนหนึ่งมาจากอากาศ ซึ่งตอนนี้มีการเฝ้าระวังต่อเนื่อง รวมถึงล่าสุดยังมีการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานด้วย โดยได้สั่งการให้แต่ละจังหวัด รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกสำรวจพื้นที่โรงงานที่มีความเสี่ยง ภายใน 20 วัน และนำรายชื่อเข้าคณะกรรมการและกระทรวงอุตสาหกรรมเอง โดยทางกรมโรงงานได้แบ่งคณะไปตรวจเหมือนกัน แต่เรื่องนี้คงต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือหน่วยงานต้องช่วยกัน
ส่วนที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร วิเคราะห์ว่าเป็นการวางเพลิง เพื่อเลี่ยงกฎหมายใหม่ที่จะมาบังคับใช้ น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าวว่า คิดได้หลายมุม อันดับแรกกฎหมายบังคับแล้วว่าจะต้องเคลียร์กากตะกอนสารเคมีออกจากโรงงาน ถ้าคิดในมุมไม่ดี ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ การเผาไม่ต้องเสียค่ากำจัด ซึ่งผู้ประกอบการต้องยอมรับด้วยว่า การกระทำแบบนี้มีผลกระทบต่อประชาชนโดยรอบจำนวนมาก เรื่องนี้คงเป็นเรื่องการวางเพลิงไม่ได้ จะต้องยกระดับความรุนแรง ปฏิบัติการแบบนี้หมายถึงความมั่นคงแล้ว ตนเองจึงขอความช่วยเหลือจากฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าตำรวจหรือดีเอสไอ เข้าไปดูแลเรื่องนี้ด้วย
น.ส.พิมพ์ภัทรา ยังกล่าวอีกว่า โรงงานที่ถูกศาลสั่งให้คืนพื้นที่และต้องจัดการกับกากสารเคมีทราบว่ามีกี่เจ้า เพียงแต่เวลาทำไม่ดีทำได้ง่ายกว่า คนที่ไม่รับผิดชอบทำง่ายกว่าคนที่รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้มีโรงงานในลักษณะดังกล่าว 6-10 โรงงาน
ส่วนจะเอาผิดโรงงานเหล่านี้ได้หรือไม่ วันนี้ที่ทำควบคู่กันไปคือกรมโรงงานอุตสาหกรรมเสนอแก้กฎหมายเพิ่มโทษ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้เป็นภัยความมั่นคง ที่ชาวบ้านโดยรับได้รับผลกระทบ เราไม่ได้มองแค่เรื่องไฟไหม้ แต่ยังมองไปถึงสภาพอาการที่ชาวบ้านต้องเจอ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นวิตกกังวล ที่ขณะนี้เริ่มเข้าหน้าฝน อาจมีสารเคมีไหลลงปนเปื้อนนั้น ขณะนี้มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมามอร์นิเตอร์เรื่องสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำแล้ว ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่าประชาชนในพื้นที่เจอปัญหามากที่สุด ทั้งนี้ ยืนยันได้ลำบากว่าน้ำจะปนเปื้อนสารเคมีจากโรงงานลงสู่แหล่งน้ำหรือไม่ อย่างที่จังหวัดระยองและพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ได้ขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.สร้างพนังกั้นน้ำ แต่ต้องดูว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ พร้อมยอมรับว่ามีความกังวล