ซีจีเอส อินเตอร์ฯ มอง ‘กนง.’ ลดดอกเบี้ย เม.ย. 0.25% แนะเก็บหุ้นใหญ่ดักเม็ดเงินใหม่ไหลเข้า พ.ค.

28 เม.ย. 2568 - 06:21

  • คาด กนง.ลดดอกเบี้ยพุธนี้ 0.25% เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวและกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ

  • คาดว่าเม็ดเงินใหม่ไหลเข้า พ.ค.กว่า 80,000-100,000 ล้านบาทจากกองทุน Thai ESG และ LTF

  • หุ้นเด่นที่แนะนำ นักลงทุนควรสะสมหุ้นบิ๊กแคปที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย เช่น GULF, CPALL, MTC, KBANK, SCC

interest-cgsi-set-stocks-SPACEBAR-Hero.jpg

ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ซีจีเอส อินเตอร์ฯ ประเมินว่า มีความเป็นไปได้สูงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมวันพุธที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในประเทศที่เผชิญภาวะชะลอตัว แนะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า-ค้าปลีก-การเงิน รับโฟลว์ใหม่หนุนตลาด คาดบาทอ่อนหลังลดดอกเบี้ย

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในรายการสัมภาษณ์ First Up ผ่านทางเพจ Facebook ของ SPACEBAR ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 30 เมษายนนี้ มีโอกาสสูงมากที่กนง.จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ตามสัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัวชัดเจน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นไทยในระยะสั้น

นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจฯ บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า การลดดอกเบี้ยรอบนี้มีลักษณะ “จำเป็นต้องลด” เพื่อพยุงเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบหนักโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางและต่ำ ต่างจากการลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ภาพรวมยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้ผลบวกต่อตลาดหุ้นอาจมีจำกัด คาดว่าดัชนี SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นเพียง 10-20 จุดเท่านั้น

ในส่วนของค่าเงินบาท คาดว่า แม้ช่วงที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าเนื่องจากแรงกดดันจากฝั่งสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่หากกนง.ลดดอกเบี้ยจริง เงินบาทอาจกลับมาอ่อนค่าระยะสั้น ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อกลุ่มส่งออกและช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศบางส่วน

interest-cgsi-set-stocks-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจฯ บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล  แนะนำให้นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เพื่อรับมือกับเม็ดเงินใหม่ที่คาดว่าจะไหลเข้าสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคมนี้ จากการเริ่มซื้อขายของกองทุน Thai ESG  และการโยกย้ายเงินลงทุนจากกองทุน LTF เดิม โดยประเมินว่ามีเม็ดเงินใหม่รอเข้าสู่ตลาดรวมกว่า 80,000-100,000 ล้านบาท

หุ้นเด่นที่แนะนำ ได้แก่ 

  • กลุ่มโรงไฟฟ้า: GULF
  • กลุ่มค้าปลีก: CPALL
  • กลุ่มไฟแนนซ์: MTC 
  • กลุ่มธนาคาร:  KBANK 
  • กลุ่มวัสดุก่อสร้าง: SCC

ทั้งนี้ ยังมองว่า โอกาสเกิดปรากฏการณ์ 'Sell in May' ปีนี้โอกาสเกิดน้อย เนื่องจากบรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่าง 'สหรัฐฯ-จีน' มีทิศทางผ่อนคลาย และแรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนใหม่ในประเทศจะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยได้ในระยะกลาง

“เดือนพฤษภาคมนี้ถือเป็นจังหวะสำคัญ นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินใหม่ พร้อมระวังความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงมีอยู่ มองกรอบ SET Index ที่บริเวณ 1,120-1,180 จุด” นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจฯ บล. ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล  กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์