ยังคงเป็นเรื่องต้องจับตา สำหรับแอปพลิเคชันล่าสุด Jagat หรือคือ แอปล่าเหรียญ จากประเทศอินโดนีเซีย ที่ขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 15-30 ปี หลังเปิดปฏิบัติการ ‘ล่าเหรียญ’ ที่มีมูลค่าต่างๆ กัน ตั้งแต่ 500, 2,000 ยัน 200,000 บาท เปิดประเดิมในไทย 6 พื้นที่ ทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี เตือนความเสี่ยง ผิดกฎหมาย เป็นแอปบุกรุก ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และอาจมีอาชญากรแฝง หลังตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบวัยรุ่นเฝ้าหาเหรียญทั้งกลางวันกลางคืน
ทำความรู้จัก Jagat จักรวาลความสนุก จริงหรือ?
Jagat ภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า ‘จักรวาล’
Jagat แอปพลิเคชัน ล่าเหรียญ ที่กำลังฮิตในหมู่วัยรุ่น ในการตามหา เหรียญ Jagat มาแลกเงิน Jagat แอปสัญชาติอินโดนีเซีย ชื่อ Jagat Technology เจ้าของ หรือผู้พัฒนาแอป Jagat เป็นชาวอินโดนีเซีย ไม่ได้จดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย มีทีมงาน 17 คน ไม่มีคนไทย

Jagat ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok มีลักษณะคล้ายกับ Pokémon Go ต่างกันตรง กับ Pokémon Go เก็บแต้มจากการรวบรวม item ในเกมส์ ส่วน Jagat เป็นแคมเปญ ตามหาเหรียญจริงที่ถูกซ่อนไว้เพื่อเอามารับเงินรางวันจากแอปพลิเคชัน
Jagat คือ ‘Coin Hunt’ เป็นกิจกรรมล่าสมบัติที่เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี 2568 ในอินโดนีเซีย Jagat ดังมากใสโซเชียล เป็นแอปที่ช่วยให้ใกล้ชิดกับครอบครัวและเพื่อนมากขึ้น โดยมีฟีเจอร์การแชร์ตำแหน่งที่ตั้งแบบเรียลไทม์และการสนับสนุนด้านความปลอดภัย

ฟีเจอร์ที่เป็นสนใจของ Jagat คือ ‘Coin Hunt’ เป็นกิจกรรมล่าสมบัติ สำหรับในไทยเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยเปิดให้บริการในกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี ฯลฯ การหาเหรียญจะต้องสมัครและจ่ายเงินในการเล่นเกมและออกค้นหาครั้งละ 149 บาท ตามที่แผนที่แสดง หากต้องการจะได้เหรียญที่มีมูลค่าจะต้องเสียเงินเพิ่มทีละ 149 บาท เพื่อแลกกับคำใบ้ เบาะแส
โดยเมื่อผู้เล่นค้นพบเหรียญสามารถกรอกรหัสที่หน้าเหรียญแลกเงินรางวัลจากแอปพลิเคชันได้ต่อไป โดยจะมีเงินเข้าบัญชีภายใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม ประเด็นการเป็นเหรียญที่แลกเงินได้จริง ทำให้วัยรุ่นยอมตามหาล่าเเหรียญ Jagat เหรียญสีทองแดงมูลค่า 500 ถึง 2,000 บาท เหรียญเงินมูลค่า 20,000 บาท เหรียญทองมูลค่า 200,000 บาท แต่ก็มีผู้ล่าเหรียญเงิน มูลค่า 20,000 บาท ได้ และมาถูกยกเลิก ขณะกำลังกรอกรหัสเข้าแอปพลิเคชัน แล้วเช่นกัน

Jagat ผลกระทบ และบทเรียนสำคัญ
ความสนุกในการ ตามล่าเหรียญ แลกเงิน ทำให้มีการเข้าไปค้นหาเหรียญในสถานที่ต่างๆ และเกิดผลกระทบกับเจ้าของสถานที่ตามมา เพราะบางสถานที่ที่เอาเหรียญไปซ่อนไว้ ไม่ใช่สถานที่สาธารณะ จึงเข้าข่ายที่จะผิดกฎหมายกรณีมีการบุกรุกสถานที่ส่วนบุคคล หากมีผลกระทบกับทรัพย์สินสิ่งของที่อยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคลก็เท่ากับเป็นการสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของสถานที่ การใช้งาสแอปพลิเคชัน มีการเปิดโลเคชัน ทำให้รู้ว่าผู้ค้นหาเหรียญเคลื่อนไหวอยู่ที่ไหน ที่น่าห่วงคือ ไม่มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากของผู้ที่เล่นเกมแจ้งกับผู้ให้บริการเพื่อรับเงินเมื่อหาเหรียญได้
บทเรียนในการให้บริการในอินโดนีเซีย คือ การเกิดความขัดแย้งหรือพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การทะเลาะกันของนักล่าเหรียญ
ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีในรัฐบาลอินโดนีเซีย เปิดเผยถึง Jagat ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเมื่อเชื่อมโยงกับสภาพเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานสูง รายได้ประชากรต่ำ ทำให้ผู้คนมองหาแหล่งรายได้เสริมอื่นๆ ผ่านเกมประเภทนี้ ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในภูมิภาคต่างๆ ของอินโดนีเซีย
รัฐบาลหรือผู้รับผิดชอบพึงตระหนัก กระแส ล่าเหรียญ คงไม่ลืมว่า การปล่อยให้ ลงแอปล่วงหน้าในมือถือ จนมาปล่อยสินเชื่อ ให้คนเดือดร้อนเพราะเป็นติดหนี้ยังไม่ทันจะจบ Jagat อาจเป็นของสนุก เป็นความหวังที่จะหารายได้เสริมก็จริง แต่ไม่ควรมองข้ามผลกระทบด้านลบที่อาจจะมีเหมือนประเทศต้นทาง ควรสร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทย ควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลของบริการดิจิทัล กับ บริบทของสังคมแบบไทย ก่อนที่จะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ตำรวจไทยเตือนเสี่ยง ด้านข้อมูลส่วนบุคคล - มิจฉาชีพ
ล่าสุด เพจ ‘ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก Police don't Cry’ ได้ออกมาโพสต์คลิปเตือนประชาชน หลังตนเองได้ทดลองดาวน์โหลดมาใช้งาน เบื้องต้น พบว่าแอปฯ ดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนประกอบธุรกิจในไทย ถือเป็นความเสี่ยงที่จะถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่ผิด นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องการขออนุญาตเข้าถึงตำแหน่งปัจจุบัน รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นสมาชิกพรีเมี่ยมด้วย
นับเป็นกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดการละเมิดพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในพื้นที่