การเจรจาระหว่างกลุ่ม TOPNEWS ของสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กับกลุ่ม เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ของ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เบื้องต้นได้ข้อสรุป ซื้อขายกันที่วงเงินประมาณ 500 ล้านบาท หากการเจรจาในช่วงวันหยุดนี้ลงตัว จะมีการแถลงข่าวการซื้อขายอย่างเป็นทางการ
ลักษณะการซื้อขายครั้งนี้ จะทำให้ลักษณะให้ทาง TOPNEWS เข้ามาเป็นผู้ร่วมผลิตรายการกับทางสถานี เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบังคับของ กสทช. ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้รับใบอนุญาต คือ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย และทาง TOPNEWS ไม่สามารถมาในฐานะผู้เช่าเวลาของสถานี เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนผังรายการของ กสทช. ที่กำหนดให้เจ้าของสถานีต้องมีเวลาผลิตรายการเองมากกว่าให้เช่าเวลา แต่หากว่าเป็นการร่วมผลิต ทาง กสทช.เปิดช่องให้สามารถทำได้โดยไม่มีกำหนด
ส่วนการเปลี่ยนชื่อสถานี กำลังมีการพิจารณาข้อกำหนดของ กสทช. ในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการเปลี่ยนชื่อสถานีจากผู้ถือใบอนุญาตเดิม ไม่ได้เปิดให้ผู้ถือหุ้นใหม่ทำการเปลี่ยนชื่อสถานี หากเปลี่ยนชื่อสถานีได้ คาดว่าจะใช้ชื่อ TOPNEWS 18
เบื้องต้นจะมีการปรับผังรายการของสถานี โดยทาง TOPNEWS จะเข้ามาทำข่าวในทุกช่วงของสถานี พร้อมกับทีมงาน ผู้ประกาศ ส่วนทาง JKN จะทำรายการส่วนที่เป็นภาคบันเทิง สารคดี ภาพยนตร์ และรายการขายตรง เนื่องจากมีรายการกลุ่มนี้อยู่ในมือแล้ว
สำหรับผังเวลารายการขายตรงทั้ง 2 ราย ต่างมีรายการขายตรงของตัวเอง โดยทาง JKN มีรายการขายตรง Hi Shopping ที่ซื้อมาจากกลุ่มฮุนได จากเกาหลี และออกอากาศในช่องมาต่อเนื่อง ส่วนของ TOPNEWS มีผู้เช่าเวลาทำรายการตรง ซึ่งรายการขายตรงเป็นรายการหลักของทั้งคู่
ทางออกทาง JKN ตัดสินใจปิดรายการ Hi Shopping ในสถานี เปิดทางให้ TOPNEWS และทาง JKN จะนำสินค้าขายตรงไปฝากขายในช่อง ทีวีไดเร็ค ของทรงพล ชัญมาตรกิจ เจ้าพ่อรายการขายตรงของไทย
อายุใบอนุญาตทีวีดิจิตอลของ JKN จะสิ้นสุดลงในปี 2572 หรือประมาณ 5 ปีนับจากนี้ โดย JKNได้ซื้อใบอนุญาตต่อจาก บริษัท ดีเอ็น บรอดแคสติ้ง ของกลุ่มเหตระกูล และทำช่อง NEWS18 เป็นช่องข่าว ความคมชัดปกติ โดยเสนอราคาที่ 1,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจขายให้กับJKN ในราคา 1,000 ล้านบาท ในปี 2564
สำหรับเงื่อนไขการซื้อขาย และแหล่งเงินทุน คาดว่ามีจะรายละเอียดชัดเจน จากการแถลงข่าววันจันทร์ที่ 11 กันยายนนี้
ลักษณะการซื้อขายครั้งนี้ จะทำให้ลักษณะให้ทาง TOPNEWS เข้ามาเป็นผู้ร่วมผลิตรายการกับทางสถานี เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบังคับของ กสทช. ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้รับใบอนุญาต คือ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย และทาง TOPNEWS ไม่สามารถมาในฐานะผู้เช่าเวลาของสถานี เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนผังรายการของ กสทช. ที่กำหนดให้เจ้าของสถานีต้องมีเวลาผลิตรายการเองมากกว่าให้เช่าเวลา แต่หากว่าเป็นการร่วมผลิต ทาง กสทช.เปิดช่องให้สามารถทำได้โดยไม่มีกำหนด
ส่วนการเปลี่ยนชื่อสถานี กำลังมีการพิจารณาข้อกำหนดของ กสทช. ในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการเปลี่ยนชื่อสถานีจากผู้ถือใบอนุญาตเดิม ไม่ได้เปิดให้ผู้ถือหุ้นใหม่ทำการเปลี่ยนชื่อสถานี หากเปลี่ยนชื่อสถานีได้ คาดว่าจะใช้ชื่อ TOPNEWS 18
เบื้องต้นจะมีการปรับผังรายการของสถานี โดยทาง TOPNEWS จะเข้ามาทำข่าวในทุกช่วงของสถานี พร้อมกับทีมงาน ผู้ประกาศ ส่วนทาง JKN จะทำรายการส่วนที่เป็นภาคบันเทิง สารคดี ภาพยนตร์ และรายการขายตรง เนื่องจากมีรายการกลุ่มนี้อยู่ในมือแล้ว
สำหรับผังเวลารายการขายตรงทั้ง 2 ราย ต่างมีรายการขายตรงของตัวเอง โดยทาง JKN มีรายการขายตรง Hi Shopping ที่ซื้อมาจากกลุ่มฮุนได จากเกาหลี และออกอากาศในช่องมาต่อเนื่อง ส่วนของ TOPNEWS มีผู้เช่าเวลาทำรายการตรง ซึ่งรายการขายตรงเป็นรายการหลักของทั้งคู่
ทางออกทาง JKN ตัดสินใจปิดรายการ Hi Shopping ในสถานี เปิดทางให้ TOPNEWS และทาง JKN จะนำสินค้าขายตรงไปฝากขายในช่อง ทีวีไดเร็ค ของทรงพล ชัญมาตรกิจ เจ้าพ่อรายการขายตรงของไทย
อายุใบอนุญาตทีวีดิจิตอลของ JKN จะสิ้นสุดลงในปี 2572 หรือประมาณ 5 ปีนับจากนี้ โดย JKNได้ซื้อใบอนุญาตต่อจาก บริษัท ดีเอ็น บรอดแคสติ้ง ของกลุ่มเหตระกูล และทำช่อง NEWS18 เป็นช่องข่าว ความคมชัดปกติ โดยเสนอราคาที่ 1,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจขายให้กับJKN ในราคา 1,000 ล้านบาท ในปี 2564
สำหรับเงื่อนไขการซื้อขาย และแหล่งเงินทุน คาดว่ามีจะรายละเอียดชัดเจน จากการแถลงข่าววันจันทร์ที่ 11 กันยายนนี้