JKN ปะทะผู้ร่วมทุน อ้างทำโดยสุจริตพร้อมขึ้นศาล

24 พ.ย. 2566 - 09:45

  • การอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดของ JKN ในเวลานี้

  • สุดท้าย เจ้าหนี้ ผู้ร่วมทุนก็ออกมาคัดค้าน และให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

  • ด้าน แอน JKN แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันเป็นการทำหน้าที่โดยสุจริต

jkn-court-stock-exchange-set-mu-coin-tcg-social-media-group-SPACEBAR-Hero.jpg

การเดินเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ  กลายเป็นทางตันสำหรับ JKN เพราะเจ้าหนี้  ผู้ร่วมทุน รวมตัวออกมาคัดค้าน ล่าสุดเตรียมฟ้องคดีแพ่ง และอาญา

นายจักรพันธ์ ปุณยปภา ผู้บริหาร บริษัท ทีซีจี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด นายขจรยศ จะริยะมา และนายมงคล ศรีวิราช ทนายความได้ร่วมกันแถลงยื่นฟ้องบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป ใน 2 คดี คือกรณีเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเกี่ยวกับโครงการ MU COIN ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ร่วมมือกัน และปิดบริษัทที่ถือหุ้นร่วมกันโดยไม่แจ้งต่อหุ้นส่วน ส่งผลให้พนักงานถูกเลิกจ้าง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท 

นายจักรพันธ์ กล่าวว่า แรกเริ่มบริษัททีซีจี ดำเนินกิจการเกี่ยวกับอินฟลูเอ็นเซอร์เอเจนซี่ จนมาสนใจทำธุรกิจผลิตสินค้า และลงทุนกับบริษัทที่ผลิตเครื่องดื่ม โดยถือหุ้นร่วมกับบริษัทเจเคเอ็น ก่อนจะมาดำเนินกิจการสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งจดทะเบียนบริษัทที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยใช้มูลค่าทองคำเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน 

เนื่องจากบริษัทต้องการสร้างแบรนด์ให้กับสกุลเงินตัวเอง จึงร่วมกับโครงการมิสยูนิเวิร์ส คอยน์ หรือ MU COIN ลงนามความร่วมมือกับบริษัทเจเคเอ็น ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่การระดมทุน ตามแผนจะปล่อยสู่ตลาด 3,000 ล้านเหรียญ มูลค่า 50,000 ล้านบาท

jkn-court-stock-exchange-set-mu-coin-tcg-social-media-group-SPACEBAR-Photo01.jpg

นายจักรพันธ์ กล่าวอ้างว่า แต่ต่อมาบริษัทเจเคเอ็น ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเรื่องโครงการ MU COIN โดยอ้างว่า บริษัทเจเคเอ็น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินดังกล่าวเป็นของปลอม ขออย่าร่วมซื้อ ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหาการทำงานใดๆ และพร้อมปล่อยสกุลเงินนี้ออกสู่ตลาด

บริษัท ได้ฟ้องร้องต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอลกรุ๊ป และนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เป็นเงิน 1,000 ล้านบาท พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลประทับตรารับฟ้อง  นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 18 ธันวาคม นี้ 

ก่อนหน้านี้ทาง JKN มีการโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ JKN ในลักษณะกล่าวหาบริษัท โดยระบุว่า ให้ระวังและอย่าได้เข้าไปร่วมลงทุนกับเหรียญหลอกลวงที่ใช้ชื่อปลอม โดยระบุว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวง

เขาจึงเตรียมฟ้องร้องต่อ น้องสาวนายจักรพงษ์ และเจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังเผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่เคยได้พูดคุยกับนายจักรพงษ์ แต่ได้รับจดหมายแจ้งมาว่าจะฟ้องร้องกลับ

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับความเสียหายจากการเข้าไปร่วมลงทุนถือหุ้นราว 40% ในโรงงานน้ำดื่มMNB ในเครือของ JKN ที่ปราจีนบุรี เนื่องจากมีการปิดกิจการลง พร้อมกับโยกย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์บางส่วน รวมทั้งสต็อคสินค้าออกไป โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ 

ซึ่งเรื่องทั้งหมดสร้างความเสียหายอย่างมากต่อบริษัท ซึ่งนอกเหนือจากการแจ้งความเอาผิดตามกฎหมายแล้ว ยังเตรียมที่จะไปยื่นเรื่องให้กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต.เพื่อให้เข้ามาตรวสอบในเรื่องนี้อีกด้วย

jkn-court-stock-exchange-set-mu-coin-tcg-social-media-group-SPACEBAR-Photo02.jpg

สำหรับการปิดโรงงานน้ำดื่ม  เป็นแนวทางแก้ปัญหาของ JKN ที่แถลงไว้ว่าจะขอโฟกัสธุรกิจหลัก ส่วนบริษัทลูกที่ไม่สามารถสร้างรายได้ หรือไม่เกี่ยวข้องจะถูกขายออกไป โดยโรงงานน้ำดื่ม แอน ตั้งความหวังไว้ว่าจะผลิตน้ำดื่มในแบรนด์ MUO โดยเป็นน้ำแร่จากไอซ์แลนด์ มีการเปิดตัวอย่างใหญ่โต แต่สุดท้ายยอดขายไม่เป็นไปตามที่คาด เนื่องจากปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และลูกค้าแบรนด์ต่างๆ  ยังไม่ให้ความสนใจ

ทางด้านบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัดได้ทำหนังสือตอบข้อซักถามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประทศไทย ที่ให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในหมายเหตุประกอบงบการเงินไตรมาส 3/66 นั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงวาเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 บริษัท ทีซีจี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ยื่นฟ้องกล่าวโทษบริษัทและกรรมการผู้จัดการว่ากระทำผิดความอาญาและข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์กรณีออกเหรียญ Miss Universe Coin และขอคิดค่าความเสียหาย 1,000 ล้านบาท 

ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ เห็นว่าการที่บริษัทฯ และกรรมการผู้จัดการ ได้ประกาศข้อความแจ้งเตือนประชาชนและนักลงทุน ซึ่งเป็นการกระทำที่สุจริตและเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ จึงพิจารณาว่าเป็นข้อยกเว้นตามกฎหมาย และไม่ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องต่อศาล บริษัทฯ มีความเห็นว่าโอกาสความเสียหายยังมีความไม่แน่นอนจึงไม่มีการตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงิน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากศาลยังไม่รับฟ้องจนกว่าการไต่สวนมูลฟ้องจะเสร็จสิ้น และจะมีผลต่อเมื่อศาลมีคำสั่งว่า คดีนี้มีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา และเนื่องจากผลกระทบดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน บริษัทฯ จึงยังมิได้ตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงินดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจในการจัดเตรียมข้อมูลที่จะให้กับศาล และเชื่อได้ว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้เรียบร้อย

สำหรับราคาหุ้น JKN ตั้งแต่วันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 159.25%  เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น และคาดหวังว่าเวทีมิสยูนิเวิร์ส จะทำให้บริษัทมีรายได้ แต่การฟ้องร้องของบริษัทผู้ร่วมทุนส่งผลให้ราคาหุ้นวันที่ 24 พฤศจิกายน อยู่ที่ 0.52 บาท ปรับลดลง -0.18 บาท หรือประมาณ 24.29%

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์