ทีมข่าว Spacebar Big City ลงพื้นที่สำรวจ ‘คลองแม่ข่า’ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวใจกลางเมือง ย่านกำแพงดิน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลายคนก็บอกว่า มีความคล้ายกับ ‘คลองโอตารุ’ ของญี่ปุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนไป มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกรุ๊ปทัวร์ที่เลือกจัดให้คลองแม่ข่า เป็นหนึ่งให้จุดหมายที่จะลูกทัวร์ได้แวะเที่ยวชม สำหรับช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมจะเป็นช่วงเย็นเป็นต้นไป เนื่องจากอากาศไม่ร้อน
การพัฒนา คลองแม่ข่า ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยติดอยู่กับคลองแม่ข่า ได้รับประโยชน์ไปด้วย หลายคนได้ปรับเปลี่ยนหลังบ้านเป็นร้านค้าให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อของ หรือนั่งกินอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างดี

ฉัตรนภา นิลทพันธ์ เจ้าของร้านครัวริมคลอง เปิดเผยว่า ตัดสินใจปรับหลังบ้านให้เป็นร้านค้า ซึ่งจากรายได้เสริมตอนนี้กลายเป็นช่องทางทำเงินหลักไปแล้ว
“เฉพาะช่วงไฮซีซั่นรายได้ต่อวันละมากกว่า 1 หมื่นบาท แม้ว่าช่วงนี้จะเป็นฤดูฝน ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปบ้าง แต่ก็ยังพอขายได้อยู่ จึงอยากจะให้เพิ่มการโปรโมทเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น”

สำหรับนักท่องเที่ยว ทีมข่าว Spacebar Big City ได้เดินสำรวจ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด หรือชาวต่างชาติ อย่างชาวจีน อเมริกา รวมถึงยุโรป ส่วนคนเชียงใหม่ก็มักจะไปถ่ายรูป เพราะมีมุมให้เลือกเก็บภาพหลายจุดทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนในเรื่องความสะอาด ชาวบ้านพยายามช่วยกันดูแลรักษา ทำตามกฎระเบียบที่วางไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจมากที่สุด
มีนา แลเฌอ ร้านขายของฝากที่ระลึก เล่าว่า ลงทุนทุบหลังบ้านเพื่อเปิดร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึก ซึ่งถือว่าการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี บริเวณหน้าบ้านจะขายตอนกลางวันในรูปแบบของการขายส่ง ส่วนของหลังบ้านจะเปิดในช่วงเย็นเป็นต้นไปในรูปแบบของการขายปลีกให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนลูกค้าที่มาซื้อของส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย คนไทยก็ซื้อบ้างแต่ส่วนมากเป็นคนต่างถิ่น

“อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มจุดถ่ายรูป รวมถึงสร้างสิ่งที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามา อย่างในบริเวณนี้ จะมีชาวบ้านที่เป็นชนเผ่าอยู่ น่าจะนำเอกลักษณ์ตรงนี้มาสร้างจุดเด่น อาจจะเป็นการให้นักท่องเที่ยวได้ใส่ชุดชนเผ่าถ่ายรูปกับสถานที่ จะได้คึกคักมากขึ้น”
นักท่องเที่ยวชาวเชียงใหม่คนหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า เพิ่งจะเคยเดินทางไปเที่ยวที่คลองแม่ข่าเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาก็เคยเห็นแต่รูปถ่ายในโซเชียลมีเดีย
“วันนี้ได้มาเที่ยว เดินเล่น กินอาหารและถ่ายรูป ก็ถือว่าประทับใจ ช่วยให้ผ่อนคลายจากเรื่องงานที่เครียดได้เป็นอย่างดี แต่อยากจะให้ทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตกแต่งสถานที่เพิ่มเติม อาจเป็นแสงสีในช่วงเวลากลางคืน แต่ทราบข้อมูลจากทางร้านขายของว่า ในช่วงเทศกาลจะมีการตกแต่ง คลองแม่ข่าให้เข้ากับบรรยากาศในแต่ละเทศกาล จึงตั้งใจว่าจะกลับไปเที่ยวอีกครั้งในช่วงเทศกาลลอยกระทงด้วย”

วิสาขะ ปัญญาช่วย ผู้อำนวยการส่วนช่างสุขาภิบาล เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ได้จัดตั้งคณะกรรมการคลองแม่ข่าขึ้น ซึ่งก็มีหน้าที่ในการดูแลด้านต่างๆ เศรษฐกิจชุมชน การท่องเที่ยว การดูแลรักษาคลอง

“ด้านของการท่องเที่ยว ก็ถือว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวมากขึ้นในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุด นักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ประมาณ 500 ถึง 1,000 คน นอกจากจะมีร้านค้าแล้ว ในช่วงเย็นก็จะมีการแสดงดนตรีเปิดหมวก ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก”
ส่วนของการดูแลคลองและสถานที่ ทางคณะกรรมการทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งในคณะกรรมการก็จะมีทั้งที่เป็นชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ก็ช่วยกันดูแลเรื่องของการทำความสะอาดดูแลความเรียบร้อย รวมถึงดูระบบน้ำในคลอง ทั้งระดับน้ำและความสะอาด ถือว่าชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในทุกด้าน หลังจากนี้ก็จะมีการพัฒนาต่อยอดในระยะที่ 2 ต่อไปอีก

‘คลองแม่ข่า’ ถือเป็น 1 ใน 7 ชัยมงคลประกอบที่ ‘พญามังราย’ เลือกชัยภูมิบริเวณนี้ในการสร้างเวียงสร้างเมือง ‘เชียงใหม่’ ในปี พ.ศ.1839
‘คลองแม่ข่า’ เป็นลำน้ำธรรมชาติ ที่ก่อกำเนิดจากลำน้ำลำห้วยของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ไหลผ่านเมืองอ้อมผ่านเวียง ‘เมืองเชียงใหม่’ ที่มีปลายสายน้ำ ไหลลงแม่น้ำปิงด้วยระยะทาง กว่า 30 กิโลเมตร และเปรียบเสมือนคูเมืองชั้นนอกที่เคยถูกใช้เป็นเส้นทางสัญจรมาอย่างยาวนาน

การขยายตัวของเมืองได้ส่งผลกระทบอย่างเลวร้ายต่อ ‘คลองแม่ข่า’ ทำให้ลำคลองแคบลง มีสิ่งปฏิกูลของเสียลงสู่ลำคลองมาก จึงทำให้น้ำเน่าเสียอย่างรุนแรง
หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ได้ร่วมกิจกรรมเปิดโครงการพัฒนาฟื้นฟู เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 เพื่อพลิกฟื้นคืนชีวิตให้ ‘คลองแม่ข่า’ จนนำไปสู่โครงการก่อสร้างระบบท่อรวบรวมน้ำเสียสองฝั่งคลอง พร้อมปรับภูมิทัศน์ระยะที่ 1 (สะพานระแกง – ประตูก้อมี) ได้สำเร็จในปี พ.ศ.2565








