มิจฉาชีพ หลอกโจรกรรมเงิน แม้จะมีการย้ำเตือนจากหลายหน่วย สุดท้ายปลายทางก็จะมาอยู่ที่มือเรา ดังนั้น ‘สติดยั้งคิด’ จะเป็นเกราะป้องกันภัยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อใดก็ตามที่เห็นว่า กำลังจะต้องกดลิงก์ ใดๆ ให้ยั้งคิด ว่า อาจเป็นมิจฉาชีพ และหยุดทุกพฤติกรรมก่อน
ล่าสุด กรุงไทย 1 ในสถาบันการเงินที่มีความเป็นห่วงประชาชน แนะวิธีป้องกันภัย ด้วยคาถา ‘4 ไม่’ โดยมีหลักใหญ่ใจความ คือ ไม่กด ไม่เชื่อ ไม่บอก ไม่โหลด โดยพฤติการณ์ของ 4 ไม่นี้ ประกอบด้วย
1. ไม่กด : ลิงก์จากข้อความ ที่ได้รับทาง SMS / e-Mail /LINE
2. ไม่เชื่อ : ต้องโทรสอบถามความจริงจากธนาคารโดยตรง
3. ไม่บอก : ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการเงิน กับบุคคลอื่น
4. ไม่โหลด : แอปพลิเคชันที่ไม่ได้มาจาก Official Store
ทั้งนี้ หากเราเผลอทำตามสิ่งที่มิจฉาชีพ แจ้ง นั่นเท่ากับว่า เราเป็นผู้เปิดทางให้มิจฉาชีพ เข้ามาโจรกรรมเงินเราได้ ทีนี้ถ้าโดนโจรกรรมไป หนทางแก้ก็จะเป็นเรื่องต้องใช้เวลา การได้เงินคืนเป็นเรื่องยาก ดังนั้น การยั้งคิดด้วยกฎง่ายๆ ใน 4 ข้อดังกล่าว จะลดความเจ็บปวดใจ ความคับแค้นเมื่อเสียเงินไป เพราะบ้างก็เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของชีวิต อาจทำให้เกิดความซึมเศร้าได้ กรุงไทยจึงย้ำ...!!!
“เงินในกระเป๋าเรา อย่าให้ใครเอาไป กดแชร์เพื่อไม่ให้ใครโดนหลอกอีกต่อไป”
อย่างไรก็ตาม หากป้องกันแล้ว แต่ยังเผลอ ถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงินจนได้...!!! เราสามารถแจ้งอายัดบัญชีปลายทางได้ ด้วยวิธีการต่อไปนี้
1. โทรแจ้งอายัดบัญชีม้าที่เบอร์ธนาคารของบัญชีปลายทางนั้น
2. หลังจากที่ธนาคารตรวจสอบแล้วว่าบัญชีธนาคารมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม หรือการฟอกเงิน จะทำการระงับการทำธุรกรรมชั่วคราวทันที โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน
3. หลังจากนั้นให้เรารวบรวมหลักฐานทั้งหมด เช่น แคปหน้าจอบทสนทนา หลักฐานการโอนเงิน หน้าเว็บไซต์ร้านค้า รวมไปถึงสมุดบัญชีธนาคารและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเรา แล้วนำไปแจ้งความกับตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง
4. ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งความรู้ทุกข์
5. หากครบ 7 วัน และยังไม่มีหมายอายัดจากพนักงานสอบสวน ทางธนาคารจะยกเลิกการอายัดธุรกรรมของบัญชีนั้น แต่ถ้ามีการตรวจสอบพบว่าเป็นอาชญากรรมจริง ๆ ก็จะเข้าสู่กระบวนการต่อไป
