‘ดาว-ลภัสรดา’ ชูพันธกิจบริหาร MASTER หลังขึ้นตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) แทน หมอเส-นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น Group CEO MASTER ชี้ พันธกิจสำคัญคือการปรับระบบการเงิน ที่ MASTER เข้าไปลงทุน และปรับโครงสร้าง
ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เผยถึงแนวทางบริหารในฐานะ CEO คนใหม่ ว่า ส่วนตัวมีแนวทางการบริหาร ด้วยการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย หวังผลของการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ความเชี่ยวชาญนั้น ส่วนตัวมีความรู้ด้านการเงิน ช่วย MASTER บริหารด้านการเงินมาตลอด และรวมถึงการพา MASTER แต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ด้วย แน่นอนว่า การบริหารงานนับจากนี้ ก็จะเข้าไปช่วยปรับระบบด้านการเงินและการวางกลยุทธ์ทั้งกับ MASTER และพาร์ทเนอร์ เพื่อให้เกิด Synergy หรือการทำงานร่วมกันในกลุ่ม คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี หลังจากนั้น ในปีที่ 2 จะเริ่มเห็นการออกดอกออกผลของธุรกิจที่ MASTER เข้าไปลงทุน โดยแพลนปีนี้ MASTER ยังมีแผนเข้าลงทุนในบริษัทอื่นๆ เพื่อเติมเต็มพอร์ตที่มีอยู่ด้วย คาดการณ์รายได้เติบโต 20%
สำหรับปัจจุบัน MASTER มีพาร์ทเนอร์ 15 ราย ที่ผนึกกำลังสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน โดยมีทีมแพทย์พาร์ทเนอร์ในกลุ่ม จำนวนรวม 138 ท่าน เพิ่มจากช่วงต้นปี 2566 ที่มีจำนวน 42 ท่าน พร้อมมีจำนวนห้องผ่าตัดรวมในกลุ่ม 45 ห้อง (เป็นห้องผ่าตัดของ MASTER 17 ห้อง ปัจจุบัน U-Rate อยู่ในช่วง 60-65% จากการเปิดใช้งานที่ระยะเวลา 12-14 ชั่วโมง) จึงเป็นศักยภาพสำคัญที่จะตอบรับเทรนด์ศัลยกรรม ที่กำลังโตแบบเป็นขาขึ้น และ MASTER ก็กำลังเดินกลยุทธ์ มุ่งสู่การเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางมากขึ้น เน้นขยายความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับพันธมิตรที่เข้าไปถือหุ้น เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน ทั้งยังมีแผนย้ายจากตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้อีกด้วย
“ภาพการเติบโตของ MASTER นับจากนี้ เราอยากเป็น Hub Surgery เพื่อทุกคนมา Joint กัน เพื่อทำให้ศัลยกรรมมันใหญ่ขึ้น โดยบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว 1 ปี กำลังมีแผนจะขยับเข้าไปใน SET ภายในปีนี้ ด้วยเหตุผลสำคัญมาจากความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่สนใจจะเข้ามาถือหุ้น แต่ติดนโยบายการลงทุนทำให้ไม่สามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งการเข้าตลาดหลักทรัพย์จะช่วยปลดล็อกปัญหานี้”
CEO ลภัสรดา กล่าว
อย่างไรก็ดี MASTER ยังคงมุ่งมั่นศึกษาพาร์ทเนอร์รายใหม่ เพื่อเข้ามาสร้างการเติบโตร่วมกันในอนาคต ด้วย Position ทางธุรกิจ คือ Specialty Hospital เป็น Hub ด้านความงามของประเทศไทย และมีจุดแข็งมาจากการมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในทุกสาขาแบบ Full Time นอกจากนี้ มีการทำ MOU แลกเปลี่ยนสื่อสารร่วมกับทางคุณหมอเกาหลีต่อเนื่อง เพื่ออัปเดตเทรนด์นวัตกรรมใหม่ๆ และตอบโจทย์ลูกค้า สร้างความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมและความงาม รวมทั้ง สนับสนุนผลกำไรในระยะยาว
โดยขณะนี้อุตสาหกรรมด้านศัลกรรมและความงามในประเทศไทยถือได้ว่า กำลังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น จาก 60,000 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 64,000 ล้านบาทในปี 2566 ซึ่งในส่วนของ MASTER ก็ให้บริการครอบคลุมหัตถการยอดนิยมทุกด้านและเป็นที่รู้จักของลูกค้า ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ ที่สามารถหาข้อมูลผ่าน Social Media และช่องทางต่างๆ ได้ ส่งผลให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลศัลยกรรมเฉพาะทางมากขึ้น นอกจากนี้ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของลูกค้าต่างชาติ ส่งผลให้ MASTER มีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นแตะระดับ 26% ในปีที่ผ่านมา และคาดปีนี้จะขึ้นไปแตะระดับ 30% โดยเฉพาะกลุ่มอินโดนีเซีย กัมพูชา พม่า จีน และลาว เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานนั้น ไตรมาส 1/2567 จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (เดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์ 2567) มีรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่เคยให้ไว้ตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามหลักการขยายโอกาสทางธุรกิจของ MASTER แบบ M&P เน้นการเติบโตทั้ง Organic และ Inorganic
โดยการเติบโตที่เป็นไปตามคาด ทำให้สามารถจ่ยปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ ขณะนี้คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมติจ่ายปันผล เป็นหุ้น มีอัตราจ่ายที่ 1 หุ้นเดิมต่อ 0.1428571428571 หุ้นปันผล พร้อมเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.01428571428571 บาท กำหนด XD วันที่ 19 มีนาคม 2567 และจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2567
