ถ้าจะซื้อรถสักคันแล้วสามารถไปทดลองขับในสนามแข่งระดับโลกหรือไปทดลองรถ 4 wheels drive ในป่าดงดิบ หรือลองขับ Sport car ด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งหมดนี้มีคนทำให้แล้ว ใน Showroom บน Metaverse
บริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมุ่งหน้าเข้าไปสร้างโลกบนเมตาเวิร์ส เพื่อเพิ่มประสบการณ์ไร้ขีดจำกัดให้กับลูกค้า และเหนือกว่าแค่การขายรถ เพื่อประสิทธิภาพทางธุรกิจและการสร้างกำไรในโลกดิจิทัล ที่จะเติบโตเกือบ 10 เท่า จากมูลค่าตลาด 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021 จะกลายเป็น 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 [1]
บริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มมุ่งหน้าเข้าไปสร้างโลกบนเมตาเวิร์ส เพื่อเพิ่มประสบการณ์ไร้ขีดจำกัดให้กับลูกค้า และเหนือกว่าแค่การขายรถ เพื่อประสิทธิภาพทางธุรกิจและการสร้างกำไรในโลกดิจิทัล ที่จะเติบโตเกือบ 10 เท่า จากมูลค่าตลาด 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021 จะกลายเป็น 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 [1]





ในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยีผู้ช่วยคนขับรถนี้จะบอกได้แม้กระทั่งคาดการณ์การจราจร พื้นที่อันตราย พื้นที่ง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือจะเป็น Application ตอบสนองความหิวระหว่างทาง เช่น กดให้มันบอกได้เลยว่ามีร้านอาหารอร่อยๆ ที่ไหน ลดราคาอยู่บ้างพาไปหน่อยซิ
และยังมีเทคโนโลยีล้ำยุคอีกมากมาย ที่ Metavese จะทำให้ประสบการณ์บนรถของทุกคนเปลี่ยนไป เช่นจินตนาการว่า พ่อแม่ส่งลูกไปโรงเรียนด้วยรถไร้คนขับ ในระหว่างรถติดก็เริ่มเข้าเรียนใน class metaverse หรือ ระหว่างที่รถกำลังติดอย่างหนัก เราก็กระโดดไปในห้องประชุมได้เลย ซึ่ง Mckinsey บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาด in-car entertainment จะสามารถทำเงินได้ราว 30,000 - 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030
และยังมีเทคโนโลยีล้ำยุคอีกมากมาย ที่ Metavese จะทำให้ประสบการณ์บนรถของทุกคนเปลี่ยนไป เช่นจินตนาการว่า พ่อแม่ส่งลูกไปโรงเรียนด้วยรถไร้คนขับ ในระหว่างรถติดก็เริ่มเข้าเรียนใน class metaverse หรือ ระหว่างที่รถกำลังติดอย่างหนัก เราก็กระโดดไปในห้องประชุมได้เลย ซึ่ง Mckinsey บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาด in-car entertainment จะสามารถทำเงินได้ราว 30,000 - 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030
