พิชัย ถกด่วน 16 หน่วย แก้สินค้าด้อยคุณภาพ-นอมินีต่างชาติ

30 ต.ค. 2567 - 11:10

  • ‘พิชัย’ ถกด่วน 16 หน่วยงาน เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการนายกฯ

  • แก้ปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพและธุรกิจนอมินีต่างชาติ

  • ตั้งเป้าเห็นผลเป็นรูปธรรมใน 30 วัน

moc_16_government_problems_inferior_products_foreign_nominee_SPACEBAR_Hero_5f25c231aa.jpg

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ครั้งที่ 1/2567 ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินการเชิงรุกในการติดตามและเร่งรัดมาตรการในการแก้ไขปัญหาให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค และผู้ประกอบการ SMEs ของไทย

นายพิชัย เผยถึงคณะกรรมการที่แต่งตั้งครั้งนี้ เป็นการดึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งรัดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาตามที่นายกฯ เป็นห่วง ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เป็นความตั้งใจดำเนินการ เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 เดือน และจะจัดประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามความคืบหน้าและพิจารณามาตรการที่เกี่ยวข้องต่อไป

moc_16_government_problems_inferior_products_foreign_nominee_SPACEBAR_Photo02_5a14022c70.jpg

วันนี้ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ทั้ง 2 ชุด ประกอบด้วย  1\. คณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ทำหน้าที่กำหนดมาตรการ ดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลการจำหน่ายสินค้า ตลอดจนเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม และ

2\. คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) เพื่อกำหนดแนวทางการกำกับดูแลและป้องปราม รวมถึงสืบสวน สอบสวนหรือตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลและนิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมเป็นนอมินี

โดยเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ตนได้หารือร่วมกับนายหาน จื้อเฉียงเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ซึ่งทางจีนยินดีให้ความร่วมมือ และต้องการรักษาความรู้สึกที่ดีกับไทย และวันที่ 4-6 พฤศจิกายน นี้ ตนจะเดินทางไปจีนจะพบกับผู้บริหารระดับสูงของจีน จะได้ปรึกษาหารือกัน เพราะไทยยังต้องพึ่งพาจีนทั้งด้านการค้าและการลงทุน และไทยมีสินค้าหลายชนิดที่ต้องพึ่งพาจีน เช่น มันสำปะหลัง วัว เหล็ก เป็นต้น ซึ่งหวังว่า ไทยและจีนจะพึ่งพากันได้ และไม่กระทบผู้ประกอบการไทย โดยวางแผนที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ผ่าน “กลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีน อย่างยั่งยืน” ที่จัดตั้งโดยคณะกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน อีกด้วย

“ทุกหน่วยงานจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ชัดเจนแล้วว่า ได้รับการติดต่อจาก TEMU ว่าจะดำเนินจดจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยเร็วๆนี้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดต่อแล้วให้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมายที่มีอยู่อย่างเข้มงวด และจะมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทย เชื่อว่าภายใน 30 วันจะเห็นผล ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมา ถ้ามีความกังวลเรื่องอาหารและผักผลไม้ที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ เราได้มีการให้ อย. และศุลกากร เข้มงวดเรื่องนี้เช่นกันไม่ต้องการให้สุขภาพของประชาชนมีปัญหา”

นายพิชัย กล่าว

moc_16_government_problems_inferior_products_foreign_nominee_SPACEBAR_Photo03_d639ef3551.jpg

ด้านนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ทางศุลกากรมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด ที่มีประเด็นเรื่องสินค้าที่ด้อยคุณภาพ ที่ผ่านมาการนำเข้าที่มีปริมาณเล็กน้อย สมอ.ยินยอมให้นำเข้ามาได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ปัจจุบัน สินค้าที่จำหน่ายภายในประเทศ จำเป็นต้องติด หรือมีใบอนุญาตจาก มอก.

moc_16_government_problems_inferior_products_foreign_nominee_SPACEBAR_Photo04_813570e346.jpg

นายสุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (กลาง) ระบุว่า ในส่วนของ อย.เราดำเนินการตั้งแต่ที่ด่าน การคัดกรองเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายให้มีการนำสินค้าติดตัว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นกองทัพมด เราลดความถี่และจำนวนที่นำเข้าติดตัวมาแต่ละครั้ง รวมทั้งมีการตรวจในพื้นที่ทั้ง กทม. และภูมิภาค ใน กทม. ดำเนินการลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ ในต่างจังหวัดร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ดูว่ามีสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรอง อย. นำมาขายโดยไม่ถูกต้องอย่างเข้มข้นอยู่ตลอด

นางสาวทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ทาง สคบ. มีเรื่องฉลากสินค้าและความปลอดภัย สินค้าที่มีการผลิตการนำเข้ามาเพื่อขายต้องมีการติดฉลากแสดงรายละเอียดให้ผู้บริโภคทราบ ยกเว้นเป็นสินค้าที่อยู่ในความดูแลของ อย. การนำเข้ามาต้องมีการแสดงรายละเอียดในฉลากก่อนนำถึงผู้บริโภค ต้องติดฉลากให้ถูกต้อง กรณีเก็บเงินปลายทางผู้บริโภคมีสิทธิเปิดสินค้าตรวจสอบและสามารถคืนผู้ให้บริการขนส่ง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้บางส่วน

ด้านนายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า สมอ. ร่วมกับกรมศุลกากร เราปิดช่องทางการนำเข้าโดยไม่ใช้ใบอนุญาตตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา และร่วมกันตั้งศูนย์ปฏิบัติการหากไม่มีใบอนุญาต จะสแกนสินค้านั้นโดยละเอียด และที่เขต free zone (เขตปลอดอากร) จะมีการตรวจสินค้าที่ออกจากเขตอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ คณะกรรมการชุดนี้พร้อมจะร่วมมือกับภาคเอกชนขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ผ่าน “กลไกประสานงานและส่งเสริมธุรกิจไทย-จีน อย่างยั่งยืน” ที่จัดตั้งโดยคณะกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีน และสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน เพื่อแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐานและธุรกิจต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนด อีกด้วย

moc_16_government_problems_inferior_products_foreign_nominee_SPACEBAR_Photo05_42a2793946.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์