นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ราคาข้าวนาปรังและการรับซื้อข้าวนาปรัง ตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวนาปรังอย่างใกล้ชิด กรมการค้าภายในจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ นายตรวจชั่งตวงวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบกำกับดูแลผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวนาปรัง ที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วง มีนาคมถึงเมษายน ร้อยละ 80 ของผลผลิตในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้า ตรวจสอบดูแลไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ มีการลดน้ำหนักความชื้นและสิ่งเจือปนตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดและมีการแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจนเปิดเผย
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบท่าข้าว โรงสี ในพื้นที่จังหวัดอ่างทองและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ราคารับซื้อข้าวเปลือกที่ความชื้น 15% อยู่ที่ 8,200-8,700 บาท/ตัน ความชื้น 25% อยู่ที่ 7,200-7,700 บาท/ตัน อีกทั้งผู้ประกอบการยังให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการแสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด
“ขอฝากให้เกษตรกรชาวนา เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ครบกำหนดอายุ เพื่อราคาที่สูงขึ้นตามชั้นคุณภาพข้าว และให้เกษตรกรมั่นใจว่ากรมการค้าภายในได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครื่องวัดความชื้น เครื่องชั่งน้ำหนักซื้อขายสินค้าเกษตรสม่ำเสมอ พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
“กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อหรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตรที่รับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
“และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพระราชบัญญัติมาตรา ชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 และหากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตรหรือพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ”
— นายอุดมกล่าว
