วรวงศ์ รามางกูกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เผย วันนี้ (7 มี.ค.68) คณะทำงานจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วยตนเอง, ที่ปรึกษา รมว.-คุณากร ปรีชาชนะชัย และเลขาฯ รมว.-จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ พร้อมคณะจากกรมการค้าภายใน ร่วมลงพื้นที่ อำเภอบางระกำ และอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ตามการมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ‘พิชัย นริพทะพันธุ์’ ให้ช่วยดูแลและติดตามดูการรับซื้อข้าวเปลือกนาปรังของเกษตรกร ซึ่งเป็น 1 ใน 8 นโยบายของรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ในการช่วยเหลือราคาข้าว ภายหลัง นบข. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง (28 กุมภาพันธ์ 2568) โดยให้เงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 จำนวน 10 ไร่ เพื่อเป็นการปรับปรุงการผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาด
บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยในพื้นที่ ยังมี สส.-พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ จากเขต4 พิษณุโลก ร่วมติดตามด้วยอย่างใกล้ชิด
“วันนี้เรามีความตั้งใจมารับฟังและติดตามสถานการณ์เพื่อประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกร และนำนโยบายมาสื่อสารให้กับเกษตรกรสบายใจ ว่ารัฐบาลเร่งติดตามและช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยในพื้นที่จุดสหกรณ์การเกษตรนิคมฯ บางระกำ (สาขาคุยม่วง) มีพี่น้องเกษตรกรทยอยนำข้าวที่เกี่ยวเสร็จแล้วมาขายหลายคันรถบรรทุก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการตรวจสอบเครื่องชั่งรถบรรทุกข้าว ทำการสอบเทียบความเที่ยงตรง รวมถึงเครื่องวัดความชื้น ที่จะช่วยให้พี่น้องเกษตรมั่นใจเรื่องน้ำหนักครบถ้วน”

ขณะที่ในการขายข้าวนั้น พบว่า เกษตรกรชาวบางระกำ นำข้าวมาขายที่สหกรณ์รวม 12 ไร่ ได้ข้าวที่ความชื้น 26% ราคาที่ขายได้ 7,480 บาทต่อตัน ซึ่งถือว่าได้ราคาดี และดีใจที่รัฐบาลได้มีนโยบายช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปรัง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีการช่วยเหลือมาก่อน
การลงพื้นที่ครั้งนี้ ยังมีการประชุมหารือร่วม ระหว่างเกษตรกรและหน่วยงานราชการ มีกรมการข้าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และผู้แทนเกษตรกรในพื้นที่บางระกำ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการปลูกข้าวคุณภาพ โดยที่ประชุมได้มีการบูรณาการโดยให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาปุ๋ย ยา ให้มีความเหมาะสม ในส่วนของกรมการข้าวให้จัดหาเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพแจกจ่ายเกษตรกรในพื้นที่เพื่อปลูกในฤดูกาลผลิตต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นจากพื้นที่บางระกำ แล้ว คณะทำงานกระทรวงพาณิชย์ ยังเดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม มี สจ.กมลชนก เหลือทองนารา ให้การต้อนรับ เพื่อมอบเงินค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวเปลือก ให้ตัวแทนสหกรณ์ และตัวแทนเกษตรกร ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี 67/68 โดยผลการดำเนินการมีเกษตรกรเข้าร่วมของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำนวน 256 ราย ผลผลิตข้าวเปลือกเจ้า 5,546 ตัน ค่าฝากเก็บ 8.32 ล้านบาท

ผลผลิตนาปรัง จ.พิษณุโลก ปี 2568 รวม 0.50 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีผลผลิต 0.44 ล้านตันข้าวเปลือก หรือเพิ่มขึ้น 14% แบ่งเป็นข้าวเจ้า ผลผลิต 0.48 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีผลผลิต 0.44 ล้านตันข้าวเปลือก หรือเพิ่มขึ้น 9% ส่วนข้าวปทุมธานี ผลผลิตปี 2568 และ 2567 มีเท่ากันที่ 0.01 ล้านตันข้าวเปลือก ในขณะที่ข้าวเหนียว ผลผลิตปี 2568 และ 2567 มีเท่ากันที่ 0.004 ล้านตันข้าวเปลือก
ในส่วนราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 25% ณ วันที่ 6 มี.ค. 68 อยู่ที่ 7,100 – 7,400 บาท/ตัน หรือเฉลี่ย 7,250 บาท/ตัน ขณะที่ราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อยู่ที่ 8,300 – 8,700 บาท/ตัน หรือเฉลี่ย 8,500 บาท/ตัน
