ในช่วงจังหวะที่เศรษฐกิจไทยเร่งขยายตัวผ่านความร่วมมือระดับภูมิภาค และโอกาสที่ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ครบวาระการดำรงตำแหน่ง กระทรวงพาณิชย์จัดงานเลี้ยงอำลานายหานอย่างอบอุ่น โดยมี พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม ณ กรุงเทพมหานคร
‘พิชัย’ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อทูตหาน ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะการผลักดันสินค้าเกษตรไทยเข้าสู่ตลาดจีนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ทั้ง ผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน, ข้าว, มันสำปะหลัง และล่าสุดคือความร่วมมือในการเปิดตลาด โคมีชีวิต ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลในเร็วๆ นี้
“จีนไม่ใช่เพียงแค่คู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย แต่คือพันธมิตรที่ร่วมวางรากฐานเศรษฐกิจในระยะยาวให้กับเกษตรกรไทย” พิชัย นริพทะพันธุ์ กล่าว
ตัวเลขเศรษฐกิจไทย-จีนยังแรงต่อเนื่อง!
เฉพาะช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-เม.ย.) ไทยส่งออกข้าวไปจีนกว่า 202,889 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 77.67% ในปริมาณ และ 31.31% ในมูลค่า เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มันสำปะหลังไทยทำสถิติส่งออกเกินเป้า ถึง 3 เท่า หลังมีการลงนามข้อตกลงการค้าร่วมกับรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา การค้ารวมระหว่างไทยกับจีนอยู่ที่ 115,851.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 10.33% จากปี 2566 โดยจีนยังคงเป็น คู่ค้าอันดับ 1 ของไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 และในปี 2568 นี้ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อาหาร และเกษตรแปรรูป
ก้าวต่อไป จากสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ สู่ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์
รัฐมนตรีฯ พิชัย ยังเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือในระดับภูมิภาคผ่านกรอบ อาเซียน-จีน รวมถึงกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในโอกาส ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปี 2569 ที่จะเป็นอีกเวทีใหญ่ในการยกระดับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว
ทางด้าน ทูตหาน จื้อเฉียง ก็ได้กล่าวแสดงความซาบซึ้งที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะดำเนินต่อไปอย่างแน่นแฟ้น โดยเฉพาะในมิติ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การลงทุน และการค้าเกษตร พร้อมย้ำว่า “ผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน ยังคงเป็นที่รักของผู้บริโภคชาวจีน”
“เราไม่เพียงส่งออกผลไม้ แต่กำลังส่งต่อคุณภาพ ความเชื่อใจ และอนาคตให้แก่กัน” หาน จื้อเฉียง กล่าว
