กองทุนวายุภักษ์ ฟื้นตลาดหุ้นไทย

6 ก.ย. 2567 - 07:25

  • กองทุนรวมวายุภักษ์ มูลค่า 1.5 แสนล้าน ประกาศ เริ่มเข้าลงทุนในตลาดหุ้น 1 ตุลาคม 2567

  • มั่นใจ แรงสนใจล้น เหตุกองทุนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและธุรกิจที่สำคัญ

  • ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่น ผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว

mof-vayupak-fund-revive-stock-market-set-money-investment-SPACEBAR-Hero.jpg

ทันที ที่เป็นข่าว กองทุนรวมวายุภักษ์ เข้าลงทุนตลาดหุ้น เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ก็ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขานรับ หุ้นเขียวขึ้นกว่า 30 จุด ดัชนีทะลุ 1,400 จุด ซึ่งแม้จะย่อลงเล็กน้อยในเวลาต่อมา แต่ปัจจัยที่ชัดเจนหลายอย่างในประเทศไทย โดยเฉพาะการเมือง มีความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล และได้ ครม.ใหม่ครบ ก็ดันให้หุ้นไทยเช้าวันนี้ (6 กันยายน 2567) ยังไปต่อ โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 1,428.14 จุด หรือพุ่งขึ้นกว่า 20 จุด 

สำหรับในประเด็น กองทุนวายุภักษ์ ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน ถึง 1.5 แสนล้านบาท ถือเป็นพลังบวกที่สำคัญ ‘ลวรณ แสงสนิท’ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ ประกาศแล้วว่า กองทุนวายุภักษ์ จะเริ่มเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป พร้อมให้หน่วยลงทุนต่างๆ เข้าไปเทรดได้ไม่เกินวันที่ 10 ตุลาคม 2567 

บอกถึงไทม์ไลน์ต่างๆ ด้วยว่า กระทรวงการคลัง จะเปิดเสนอขาย (หน่วยลงทุนประเภท ก.กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง หรือ VAYU1) ให้แก่นักลงทุนทั่วไปช่วงระหว่างวันที่ 16-20 กันยายน 2567 มูลค่ารวม ไม่เกิน 1.5 แสนล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2567 จากนั้น กองทุนวายุภักษ์จะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่หน่วยลงทุน VAYU1 (กองทุนรวมผสม) จะเข้าซื้อขายในตลาดฯ วันที่ 15 ตุลาคม นี้ 

สำหรับหน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งมีระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้นของหน่วยลงทุนที่ 10 ปี โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก.จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปี ตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนฯ แต่ไม่น้อยกว่า อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ซึ่งจะชี้แจงในหนังสือชี้ชวนต่อไป

โดยอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำและขั้นสูงดังกล่าว จะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี นอกจากนี้ กองทุนจะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุนตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และมีการกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหนย่วยลงทุนประเภท ก. หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง

“กองทุนมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนแบบ water fall โดยในส่วนของเงินต้น ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก.มีสิทธิได้รับชำระคืนเงินต้น ตามมาตรการดังกล่าว จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมก่อนผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. (กระทรวงการคลัง)”

สำหรับหุ้นที่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะเปิดกว้างให้มีการลงทุนในหุ้น Small & Medium Cap ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีคะแนน ESG สูง เพื่อเปิดกว้างให้กับผู้บริหารกองทุนต่างๆ ได้มีตัวเลือกในการเข้าลงทุนมากขึ้น จากเดิมที่มีข้อจำกัดการลงทุน เพียงแค่หุ้นในกลุ่มหุ้นบลูชิพ ที่อยู่ใน SET50 หรือ SET100 เท่านั้น

ซึ่ง ลวรณ บอกก่อนหน้านี้ด้วยว่า จะมีธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เข้าลงทุนในกองทุนวายุภักษ์ ด้วย

นี่จึงเป็นภาพข่าวดีหนึ่ง ที่หนุนนำตลาดหุ้นไทย อย่างมีเหตุมีผล คาดว่า เมื่อถึงวันที่กระทรวงการคลัง เปิดให้จอง ไม่ว่าจะในส่วนของประชาชนทั่วไป หรือนักลงทุนสถาบัน จะให้ความสนใจล้น หลังเป็นความหวังหนึ่งของการลงทุน ที่มีความเชื่อมั่น ว่าเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว จับตา บรรยากาศการจองซื้อที่กำลังเกิดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์