พบอีก 2 ราย ในเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม

30 ส.ค. 2567 - 03:51

  • เหตุอุโมงค์รถไฟไทย-จีน ถล่ม สรุป แรงงานที่ติดภายในทั้งสาม เสียชีวิตทั้งหมด

  • ชี้ ศพแรก พบวานนี้ และเช้านี้พบอีก 2

  • เร่งนำศพทั้งสองออกจากจุดเกิดเหตุ และส่งชันสูตรต่อไป

nakhon-ratchasima-found-2-workers-died-high-speed-train-SPACEBAR-Hero.jpg

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงาน 3 ราย จากเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเช้าวันนี้ (30 สิงหาคม 2567) ได้รับแจ้งจากทีมค้นหาในอุโมงค์ พบผู้ประสบภัยอีก 2 รายเสียชีวิตแล้ว ซึ่งจุดที่พบอยู่ไม่ห่างจากศพแรกที่พบเมื่อวานนี้ รวมขณะนี้มีผู้ประสบเหตุเสียชีวิต 3 ราย โดยแรงงานทั้งสาม มีชาวเมียนมา 1 ราย และชาวจีน 2 ราย คือ นายหูเสียงหมิ่น ผู้ควบคุมงาน และนายตงชิ่นหลิน คนขับรถแบ็กโฮโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ขุดดินและสร้างกล่องค้ำยันทะลุกองดินเข้าไปภายในอุโมงค์ ห่างจากจุดแรก ประมาณ 3 เมตร และอยู่ระหว่างการหาวิธีเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ออกจากที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ถอนกำลังและรื้อเต็นท์ ซึ่งใช้ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราวออกแล้ว จากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนเก็บกู้และลำเลียงศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายส่งชันสูตรต่อไป 

การรถไฟฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และพร้อมให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอขอบคุณทีมงานกู้ภัย เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชนทุกคน ที่มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนสามารถพบร่างของคนงานที่ติดค้างทั้ง 3 ราย

สำหรับ อุโมงค์รถไฟคลองไผ่ ช่วงคลองขนานจิตร ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ซึ่งเกิดเหตุดินทรุดตัวภายในอุโมงค์ เมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา 

โดยตลอดปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานที่ติดค้างทั้ง 3 ราย ใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 126 ชั่วโมง และทีมงานกู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากปัญหาดินสไลด์ลงมาจากด้านบนอุโมงค์อย่างต่อเนื่องทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดดินเพิ่มมากขึ้น การดันท่อช่วยชีวิตแล้วติดชั้นหินจนเจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนวิธีเป็นการสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดินและหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์