พิรงรอง ย้ำคำเดียว ยังไม่พูด! สดบอลยูโรไม่จอดำ

ทันทีที่ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบเห็นประเด็นข่าวเผยแพร่ ถึงการประชุมบอร์ด กสทช. (14 มิถุนายน 2567) ซึ่งมีการชี้รวมถึงประเด็นการถ่ายทอดสด ฟุตบอลยูโร 2024 แปลความเสมือนตัวเองเป็นคนให้ข่าว ว่า การถ่ายทอดสดฯ เมื่อคืน ไม่มีจอดำ! โดยได้ชี้แจงผ่านสื่อโซเชียล (โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว : Pirongrong Ramasoota) ตอกย้ำ การยังไม่เคยให้ข่าว เกี่ยวกับการถ่ายทอดฟุตบอลยูโรว่าจะไม่เกิดอาการจอดำหรือพูดไปถึงไอพีทีวีเป็นการเฉพาะเจาะจง... ซึ่งในข้อความการชี้แจงเพื่อความชัดเจนนั้น ระบุว่า

และสิ่งที่ดำเนินการในที่ประชุม กสทช. คือพยายามนำเสนอวาระเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2024 ต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาการถ่ายทอดสดผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมตามประกาศ Must Carry ควรต้องเป็นโครงข่ายที่มีความพร้อมทางเทคนิค...ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น 14 มิถุนายน 2567 หรือเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ที่ประชุม พิจารณาไม่ทัน และปิดไปก่อน...

ทั้งนี้ ข้อความที่เป็นข่าวออกไป อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน จึงลงสื่อโซเชียลเพื่อความเข้าใจตรงกันอีกครั้ง ระบุว่า ... 

“ขออนุญาตแก้ข่าวเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องนะคะ เพราะมีการไปลงข่าวที่อาจจะคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงค่ะ

ส่วนตัวไม่เคยให้ข่าวเกี่ยวกับการถ่ายทอดฟุตบอลยูโรว่าจะไม่เกิดอาการจอดำหรือพูดไปถึงไอพีทีวีเป็นการเฉพาะเจาะจงเลยค่ะ

วันนี้ประชุมกสทช.ยาวถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งเราได้พยายามนำเสนอวาระเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2024 ต่อที่ประชุม กสทช.

วาระนี้สืบเนื่องจาก ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. ที่ได้มีมติกลั่นกรองความเห็นเสนอ กสทช.พิจารณา ให้กรณีการถ่ายทอดสดผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียมตามประกาศ Must Carry ควรต้องเป็นโครงข่ายที่มีความพร้อมทางเทคนิคและทำตามเงื่อนไขของเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ที่กำหนดว่าต้องออกอากาศเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น โดยที่ประชุมอนุญาตโทรทัศน์มีมติเสนอที่ประชุมบอร์ด กสทช. พิจารณาก่อนที่การแข่งขันดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในคืนวันที่ 14 มิ.ย. 67 นี้

ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาประเด็นการป้องกันการล้นของสัญญาณออกนอกประเทศ และหลักการที่ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ปฎิบัติตาม กฎ Must Carry ซึ่งช่องที่ได้รับสิทธิในการถ่ายทอดสด คือ ช่อง PPTV ช่อง 9 MCOT HD และ ช่องไทยรัฐทีวี แต่บอร์ด กสทช.ไม่ทัน ได้พิจารณาในวาระนี้ ปิดประชุมไปเสียก่อนค่ะ

อย่างไรก็ดี ในกรณีการทำตามกฎ Must Carry ทางสำนักงาน กสทช. ก็ได้แจ้งเวียนกำชับผู้รับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องไปแล้วให้ถือปฎิบัติตามกฎ Must Carry เพื่อเป็นการปกป้องประโยชน์ที่ประชาชนพึงจะได้รับภายใต้กฎหมายค่ะ”