ณรงค์ฤทธิ์ สุขไชยปราการ ผู้จัดการทั่วไป สนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์เชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์ภาพรวมของธุรกิจสนามกอล์ฟในพื้นที่ภาคเหนือในปี 2568 ว่า มีแนวโน้มคึกคักต่อเนื่องจากปี 2567 โดยมีนักกอล์ฟจากประเทศเกาหลี, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, จีน และยุโรป เดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟมากขึ้น กระจายในภาคเหนือ 15 แห่ง มีตัวเลขหมุนเวียนไม่น่าจะต่ำกว่า 600,000 คน สร้างรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท ในจำนวนนี้ร้อยละ 70 อยู่ในสนามกอล์ฟจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน รองลงมาคือจังหวัดเชียงราย, จังหวัดตาก และจังหวัดลำปาง
“สาเหตุที่นักกอล์ฟจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในภาคเหนือมากกว่าปีก่อน เพราะสภาพอากาศของแต่ละประเทศหนาวเย็น และมีหิมะ จึงนิยมเข้ามาเล่นกอล์ฟในช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์ ส่วนช่วงเดือนมีนาคมจนถึงเดือนกันยายน จะเป็นตลาดในประเทศ และต่างประเทศที่ยังหมุนเวียนเข้ามาเล่นกอล์ฟกันอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ทุกสนามกอล์ฟน่าจะมีการจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดสนามกอล์ฟในช่วงโลซีซันมากกว่าทุกปี เพื่อให้เกิดความคักคักในตลาดท่องเที่ยวและกีฬา”



สำหรับสนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์เชียงใหม่ ถือว่าเป็น 1ใน 3 สนามกอลฟ์ขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ในปี 2567 มีนักเล่นกอล์ฟทั้งชาวต่างประเทศ และชาวไทยเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 45,000 คน ถือว่าขยายตัวตามเป้าหมายจากปี 2566 ร้อยละ 15 และแนวโน้มในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 โดยจะขยายตลาดไปยังกลุ่มนักกอล์ฟ์ประเทศไต้หวัน , จีน, ออสเตรเลีย และอเมริกาเพิ่มขึ้น
“ในปี 2567 ได้มีการใช้งบประมาณมากกว่า 20 ล้านบาทในการปรับปรุงกรีน และคลับเฮ้าส์ใหม่ และได้มีการปรับราคากรีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 หรือเฉลี่ยประมาณ 5,600 บาท เพื่อเจาะตลาดไฮเอนท์ เนื่องจากลุ่มนักกอล์ฟชาวต่างประเทศส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง และต้องการความเป็นส่วนตัวในการเล่นกีฬากอล์ฟ ดังนั้นในปี 2568 ยังคงจะเน้นมาตรฐานคุณภาพของสนามกอล์ฟ และจุดขายคือ ไนท์กอล์ฟ และเลย์เอ้าท์ที่ท้าทายนักกอล์ฟ ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด”
ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า สนามกอล์ฟซัมมิท กรีนวัลเล่ย์เชียงใหม่ จะเน้นความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการปรับแผนการตลาดใหม่ เนื่องจากปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และกัมพูชา มีสนามกอล์ฟเปิดให้บริการหลายแห่ง รวมถึงประเทศเวียดนาม ได้ปรับแผนเชิงรุกทำตลาดท่องเที่ยวและกีฬา โดยเฉพาะตลาดกอล์ฟ ดังนั้น การแข่งขันจะมีมากขึ้น โดยยังเชื่อมั่นว่า มาตรฐานการให้บริการอย่างครบวงจร และการได้รับการรับรองเป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดแห่งแรกของประเทศไทย จึงกลายเป็นสนามที่เล่นกอล์ฟเสร็จแล้ว ยังมีกิจกรรมนั่งดูดาว และส่งเสริมการรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย



พัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจสนามกอล์ฟในจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ฤดูกาลในการเล่นกอล์ฟช่วงเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ถือว่าคึกคักเป็นอย่างมาก โดยจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเล่นกอล์ฟ และนักกีฬากอล์ฟจากต่างประเทศ ทั้งเอเชีย และยุโรป ต่างให้ความนิยมเดินทางเข้ามาเล่นกอล์ฟเป็นจำนวนมาก



“ในปี 2567 ถือว่าธุรกิจสนามกอล์ฟ มีการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องมาจากปี 2566 และกระจายการใช้บริการไปยังกลุ่มธุรกิจบริการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ธุรกิจสปา และธุรกิจโรงแรม เนื่องจากระยะเวลาการพำนักของกลุ่มนักกอล์ฟมีมากกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป โดยส่วนใหญ่ กลุ่มนักกอล์ฟจากประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น จะเป็นตลาดใหญ่ รองลงมาจะเป็นกลุ่มยุโรป ที่ชื่นชอบสภาพอากาศที่ดี และความพร้อมทั้งระบบธุรกิจบริการ และการแพทย์”
“ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้วางแผนโปรโมทการเล่นกอล์ฟในช่วงกรีนซีซัน โดยร่วมกับสมาคมกอล์ฟ รีสอร์ทภาคเหนือ จัดกิจกรรมโรดโชว์ในต่างประเทศ เช่น จีนและไต้หวัน ในส่วนของตลาดภายในประเทศได้ร่วมกับสมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือจัดกอล์ฟเฟสติวัล ช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนสิงหาคม เพื่อเติมนักกอล์ฟคนไทย หรือนักกอล์ฟที่อยู่ในประเทศไทยมาเล่นกอล์ฟในช่วงกรีนซีซันเพิ่มขึ้น” ผอ.ททท.เชียงใหม่ กล่าว

