เรียกได้ว่า เป็นอีกข่าวดี ที่ทยอยออกมาให้รับทราบ กับราคาน้ำมันดีเซล ที่ขณะนี้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งประชุมวานนี้ (28 ธันวาคม 2566) มีมติเห็นชอบให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาน้ำมันขายปลีกดีเซล เพื่อให้คงราคาอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ได้เห็นชอบ มาตรการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ก่อนหน้านี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ จะช่วยตรึงราคาดีเซลต่อไปอีก 3 เดือน มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า มติ กบน.ดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี 19 ธันวาคม 2566 เพื่อเป็นการตรึงค่าครองชีพให้ประชาชนต่อเนื่องภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันดีเซล ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2566
การดำเนินการดังกล่าวเป็นการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ในการรักษา เสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานยังมีความผันผวน
นายวิศักดิ์ ยังรายงานประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ด้วยว่า ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2566 กองทุนฯ ติดลบ 78,594 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 32,476 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 46,118 ล้านบาท
ย้อนดูมติ ครม.วันที่ 19 ธันวาคม 2566
สำหรับมติ ครม. 19 ธันวาคม 2566 เรื่องที่เห็นชอบ มุ่งลดภาระค่าใช้จ่ายด้าน น้ำมันเชื้อเพลิงและด้านไฟฟ้า ดังนี้
(1) ราคาน้ำมันดีเซล บริหารราคาน้ำมันดีเซลในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 โดยกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังร่วมกันบริหารจัดการราคาขายปลีก โดยใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
(2) ราคา LPG บริหารราคาในการตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 โดยกระทรวงพลังงานบริหารผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
(3) ให้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาดำเนินการตรึงอัตราค่าไฟฟ้าที่ประกาศเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้ารอบเดือนมกราคม 2567 ถึงเดือนเมษายน 2567 ในอัตราไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วยต่อไป
(4) ช่วยเหลือค่าไฟฟ้าของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้า ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็น กลุ่มเปราะบาง จะคงไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย (คือลดไป 21 สตางค์ต่อหน่วย) ซึ่งจะเป็นการลดเป็นเวลา 4 เดือน ครอบคลุมรอบบิล มกราคม – เมษายน 2567
