ตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นแหล่งเงินทุน ที่ไม่ต้อง ‘กู้’ ผู้นำพาธุรกิจเข้าจดทะเบียนฯ มีสิ่งที่ได้ คือ ความน่าเชื่อถือให้บริษัทและแบรนด์สินค้า ช่วยบริษัทมีแหล่งเงินทุนระยะยาว มีภาพลักษณ์ที่ดี มีการบริหารงานแบบมืออาชีพ มี สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินปันผล และอีกหลายอย่าง แต่ข้อดีต่างๆ เหล่านี้ก็ต้องแลกกับ สัดส่วนความเป็นเจ้าของที่จะต้อง ‘ลดลง’ มีค่าใช้จ่ายที่ ‘สูงขึ้น’ และรวมถึง การสูญเสียอิสระในการทำงาน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้หากองค์กร-บริษัทใดนำไปคำนวณบวกลบคูณหารแล้วผลลัพธ์ที่ได้ ‘ตอบโจทย์ธุรกิจ’ ก็ล้วนเลือกนำพาเข้าตลาดฯ กันทั้งนั้น จากโอกาสทางธุรกิจข้างหน้า ยังมีหลายด้าน
อย่าง ‘โอ้กะจู๋’ โดย บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) ซึ่งกำลังรุกขยายธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และกำลังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ‘Ohkajhu Wrap & Roll’ และ ‘Oh Juice’ ก็ประกาศแล้ว ถึงการนำพาบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เผย ขณะนี้ บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อออกและเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 26.1 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ จะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายสาขา เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

โอ้กะจู๋ เป็นใครมาจากไหน?
‘โอ้กะจู๋’ เป็นแบรนด์ SMEs ประกอบธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ของ บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ เริ่มก่อตั้งจากธุรกิจปลูกผักสวนครัว เมื่อปี 2553 ของกลุ่มเพื่อน คือ โจ้-จิรายุทธ ภูวพูนผล และ อู๋-ชลากร เอกชัยพัฒนกุล ทั้งคู่ลุยทำฟาร์มผักออร์แกนิกให้กลายเป็นธุรกิจร่วมกัน กระทั่งปี 2556 ได้เปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ‘สวนผักโอ้กะจู๋’ ซึ่งเป็นชื่อที่ผวนมาจาก ‘อู๋กับโจ้’ ก่อนจะมี ต้อง-วรเดช สุชัยบุญศิริ เข้ามาเสริมทัพอีกคน
จากเทรนด์รักสุขภาพ ทำให้โอ้กะจู๋ เติบโตมาเข้าตา โออาร์ (บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก : OR) ซึ่งได้พาบริษัทย่อย ‘มอดูลัส เวนเจอร์’ เข้าลงทุน 20% หรือมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท ในร้านอาหารโอ้กะจู๋ เพื่อต่อยอดธุรกิจ Food & Beverage โดยมองว่า โอ้กะจู๋ เป็นธุรกิจแห่งโอกาส มีจุดเด่นเรื่อง “ความสดใหม่ของผักที่ปลูกด้วยระบบอินทรีย์ และส่งตรงจากฟาร์มผักขนาดใหญ่ ที่ จ.เชียงใหม่” จึงเกิดการร่วมทุนกันขึ้น เมื่อปี 2564 ถือเป็นอีกคีย์แมนของ OR ที่ช่วยหนุนพอร์ต non oil ให้เติบโต และการเข้าตลาดฯ ของโอ้กะจู๋ ก็เป็นแผนหนึ่งของการเดินหน้าเติบโต ในปี 2567
โอ้กะจู๋ ชูศักยภาพทีมบริหาร

ชลากร เอกชัยพัฒนกุล (อู๋) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ (OKJ) เผย การจับมือกับพันธมิตร อย่าง OR โดยการเข้ามาถือหุ้น 20% ช่วยให้บริษัทฯ สามารถสร้างโอกาสการเติบโตและก้าวไปอีกขั้น พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนจะตอกย้ำศักยภาพทีมบริหาร ที่ ‘ตัวเอง’ (อู๋-ชลากร) มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด การบริหารธุรกิจ มีความชื่นชอบในการทำอาหาร โจ้-จิรายุทธ มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร และกระบวนการเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการ และ ต้อง-วรเดช ที่เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม นำความรู้ด้านเครื่องจักรทางการเกษตร การสร้างโรงเรือน และวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์มาพัฒนา ให้สามารถสร้างผลผลิตได้ในปริมาณที่มากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
โดยความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย เมื่อมาผสมผสานและร่วมกันสร้างธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ขยายธุรกิจให้เติบโต ปรับตัวผ่านวิกฤตต่างๆ และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน รวมถึงมีวิสัยทัศน์ที่จะผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืน
จิรายุทธ ภูวพูนผล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานเกษตรอัจฉริยะ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในกระบวนการทำเกษตรอินทรีย์เชิงลึกแบบบูรณาการทุกกระบวนการ ตั้งแต่เพาะเมล็ด เตรียมดิน การดูแลระหว่างเพาะปลูก และเก็บเกี่ยว สามารถรักษาปริมาณและคุณภาพของผักผลไม้ โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน International Federation of Organic Agriculture Movements (IFOAM) จากสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ, มาตรฐาน USDA Organic ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองอาหารและผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของสหรัฐอเมริกา และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สหภาพยุโรป (EU Organic Certification)
ปัจจุบัน บริษัทฯ ปลูกผักสลัด ผลไม้ และดอกไม้ทานได้ ด้วยกระบวนการเกษตรอินทรีย์จากสวน 5 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่รวมประมาณ 380 ไร่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการรับซื้อผักผลไม้ออร์แกนิคจากเกษตรกรในเครือข่ายเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบและจำหน่ายในร้านโอ้กะจู๋ ภายใต้แบรนด์ ‘โอ้กาด’ โดยแบรนด์ดังกล่าวเป็นมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของบริษัทฯ (Ohkajhu’s Certified) ที่ใช้รับรองผักผลไม้สดออร์แกนิคจากเกษตรกร นับเป็นการสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงยังสร้างรายได้และอาชีพแก่ชุมชน
วรเดช สุชัยบุญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ซัพพลายเชน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญการบริหารห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือ From Farm To Table เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในแต่ละกระบวนการ เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการวางแผนเพาะปลูก ผลิตและจัดหาวัตถุดิบ ขนส่งและจัดเก็บวัตถุดิบที่สดใหม่ ตลอดจนการบริหารจัดการครัวกลาง บริหารจัดการสาขา และการกระจายสินค้า โดยเฉพาะผักที่เป็นวัตถุดิบสำคัญ ซึ่งบริษัทฯ สามารถจัดส่งผลผลิตที่สดใหม่จากสวนถึงหน้าร้านภายใน 28 ชั่วโมง เป็นการตอกย้ำ ‘The King of Organic Salad’ และพันธกิจ “การส่งมอบผักออร์แกนิคจากฟาร์มที่คัดสรรวัตถุดิบปราศจากสารเคมี สู่มื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน” พร้อมทั้งยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนเพื่อร่วมอุดมการณ์ในวิถีอินทรีย์”