จับตาธุรกิจบันเทิงไทย หลัง ‘ภูมิธรรม’ ลุยเมืองคานส์

เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2024 (Cannes Film Festival 2024) อีก 1 เทศกาลที่หลายคนตั้งตารอ ในส่วนของรัฐ ปีนี้มี รัฐมนตรีว่าการฯ พาณิชย์ ภูมิธรรม เวชยชัย เข้าร่วม พร้อมนำทัพผู้ประกอบการ จับคู่ธุรกิจ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำผู้ประกอบการไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แอนิเมชัน ซีรีส์วาย และธุรกิจบันเทิงที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า(Business Matching) ในงาน Marché du Film ในงาน Cannes Film Festival 2024 ที่ Palais des Festivals เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ค.67) เพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และบริการที่เกี่ยวข้อง และทำให้ธุรกิจบันเทิงของไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศ

ตลาดภาพยนตร์ แอนนิเมชัน เกม เติบโตดี

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตลาดหนัง แอนิเมชันและเกมของเรากำลังเติบโตดี ซึ่งตัวเองมาถึงคานส์เมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา พบว่า ผู้ประกอบการมีรายได้ถึง 1,100 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ตลอดเทศกาล 9 วัน 800 ล้านบาท เรียกว่า ทะลุเป้าแล้ว นี่จึงเป็นจุดชี้ตลาดบันเทิงเติบโตทุกด้าน ทั้งตลาดหนังผี ซีรีส์วาย ซีรีส์ยูริก็ติดอันดับ ดังนั้น หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะส่งเสริมอุตสาหกรรมหนังให้มากขึ้น เพราะการมาครั้งนี้ เห็นความต้องการของตลาดแล้ว ขณะที่ประเทศไทยเองยังมีจุดเด่นหลายด้าน ทั้งสถานที่ถ่ายทำเทคนิคการตัดต่อและค่าแรง รวมไปถึงการสนับสนุนจากภาครัฐในการลดภาษี โดยทั้งดิสนีย์ ฮอลลีวูด ก็มาใช้โลเคชั่นประเทศไทย และจะสร้างรายได้เข้าประเทศให้สูงขึ้น

ทั้งนี้ งาน Cannes Film Festival ถือเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุด มีนักธุรกิจในวงการภาพยนตร์เข้าชมมากที่สุดในโลก ในงานมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ งานแสดงสินค้า Marché du Film ที่เป็นตลาดซื้อ-ขายภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยในปีนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้นำผู้ประกอบการไทยจำนวน 12 บริษัท เข้าร่วมงาน Marché du Film ภายใต้คูหา Thailand Pavilion บนพื้นที่ขนาด 82 ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 14-22 พฤษภาคม 2567 เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าแก่ผู้ประกอบการไทยและขยายช่องทางการตลาดภาพยนตร์ แอนิเมชัน ซีรีส์วาย และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง

ด้าน นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า ล่าสุดช่วงจัดงาน 5 วันแรก ได้มีการจับคู่เจรจา 317 ราย และมีมูลค่า 1,350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า 9 วันของการจัดงาน จะมีมูลค่าซื้อขายกว่า 1,900 ล้านบาท เท่ากับปีก่อน หรืออาจมากกว่า ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า อินเดียสนใจหนังแนวซีรีส์วายของไทย 

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ผู้ประกอบการไทย ที่มาออกงาน Marché du Film มีทั้งหมด 12 บริษัท และ 1 สมาคม แยกเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชัน 9 บริษัท ได้แก่ 

1. บริษัท กันตนา โมชั่น พิคเจอร์ส จำกัด 
2. บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด 
3. บริษัท เนรมิตหนัง ฟิล์ม จำกัด 
4. บริษัท ไนท์ เอดจ์ พิคเจอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด 
5.บริษัท แบรนด์ธิงค์ จำกัด 
6. บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 
7. บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด 
8. บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด 
9. บริษัท ไร้ท บิยอนด์ จำกัด 

และผู้ผลิตรายการและละครโทรทัศน์ จำนวน 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท เฮโล โปรดักชั่น จำกัด และผู้ให้บริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด และบริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)