พิชัย เลื่อนเจรจาสหรัฐ ชี้ยังมีเวลา ขอทบทวนแผนเพิ่มเติม

22 เม.ย. 2568 - 12:39

  • ‘พิชัย’ แจงเหตุเลื่อนบินเจรจาสหรัฐฯ ขอทบทวนแผนเพิ่มเติม

  • รับยังมีเวลาพอ หวังให้เกิดความเหมาะสม และต่อคิวประเทศใหญ่

  • แย้มไม่ปิดช่องขยายเพดานหนี้ คุย สศช.ประเมินสถานการณ์

pichai-mof-adjust-plans-negotiations-usa-SPACEBAR-Hero.jpg

พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยเหตุผล “เลื่อนเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการปรับขึ้นภาษีกับรัฐบาลสหรัฐฯ” โดยระบุว่า คณะทำงานลงความเห็นควรขยับเวลาการเดินทางไปเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อจะได้หารือเพิ่มเติมและทบทวนแผนการไปเจรจาให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่

“แม้ว่าจะผ่านมาเกิน 10 วัน แต่มีเพียงประเทศเดียวที่ได้เจรจากับสหรัฐ ส่วนบางประเทศก็ส่งข้อมูลไปว่าจะทำอะไรบ้าง ซึ่งเมื่อดูสถานการณ์แล้ว สหรัฐฯ ยังมีกรอบการคุยประเทศกับที่มีการค้าที่ใหญ่กว่าไทยอีก 10 กว่าแห่ง ดังนั้น ไทยจึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงก่อน ถึงจะมีความเหมาะสมมากที่สุด”

พิชัย ระบุ

พิชัย ยังกล่าวด้วยว่า แม้กำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯ จะเลื่อนออกไป แต่ทีมทำงานยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนแรก คือ ทีมต่างประเทศที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ถือเป็นทีมส่วนหน้า เพื่อติดตามข้อมูลต่างๆ ก่อนนำมาใช้ในการเจรจาในระดับสูงต่อไป อีกส่วนคือทีมในประเทศ ซึ่งจะพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้า เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ยอมรับว่าต้องเกิดผลกระทบหมด ทุกประเทศในโลกมีปัญหาเหมือนกันเนื่องจากระบบการค้าขายของโลกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกคนต้องปรับตัว ทางรัฐบาลได้เตรียมการเพื่อช่วยเหลือ ฟื้นฟู และปฏิรูป 

โดย ‘การช่วยเหลือ’ นั้น จะนัดหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ หากเกิดกรณีที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ จนทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ และเตรียมพร้อมออกมาตรการต่างๆ มารองรับ

ส่วน ‘การฟื้นฟูและเยียวยา’ ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สหรัฐฯ รัฐบาลจะหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อประเมินผลกระทบและหามาตรการออกมาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบต่อไป โดยตอนนี้กำลังติดตามสถานการณ์ว่า จะหาทางฟื้นฟูอย่างไร 

ขณะที่ ‘การปฏิรูป’ รัฐบาลจะพิจารณาแนวทางการเจรจากับสหรัฐฯ ทั้ง 5 เรื่องสำคัญ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป ทั้งด้านอัตราภาษีนำเข้า หรือถิ่นกำเนิดของสินค้า

“ตอนนี้ให้โจทย์และการบ้าน ต้องตามอยู่แล้วว่า กลุ่มไหนน่าจะได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องของปฏิรูป ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดกับทุกคน สิ่งที่ต้องทำคือการปฏิรูป หลักเกณฑ์ กติกาการนำเข้าให้มีความชัดเจน รวดเร็ว โปร่งใส ทำเรื่องนี้เลยก็เป็นโอกาสที่ดี นอกจากนี้ ได้ตั้งโจทย์กับสภาพัฒน์ จากที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ดี แล้วยังต้องติดตาม ไตรมาส 2 แต่หากในกรณีที่ไม่ดี จะไม่ดีระดับไหน ถ้ากรณีไม่ดีมากๆ แปลว่า เมื่อส่งออกมีปัญหาก็จะกระทบภาคการผลิตและการจ้างงานก็จะน้อยลง ซึ่งสภาพัฒน์จะต้องนำโจทย์ไปคิดในเรื่องดังกล่าวว่าต้องมีมาตรการใดเพื่อมารองรับบ้าง”

พิชัย กล่าว

รองนายกฯ พิชัย บอกด้วยว่า ขณะนี้ รัฐบาลมั่นใจว่าได้กำหนดท่าทีที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและสหรัฐฯ ในลักษณะ วิน-วิน จึงต้องใช้เวลา และโอกาสที่เหมาะสมในการตัดสินใจ เพื่อจะได้เดินทางไปเจรจาถูกต้องและถูกต้องตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งระยะเวลาในการเดินทางยังเหลือเวลาอีก 70 วันในการพิจารณาช่วยเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง

“เราต้องดูสถานการณ์ว่าในช่วงจังหวะนี้เป็นอย่างไร และเมื่อไปแล้วเขาจะมีข้อเสนออะไรเพิ่มอีกที่เขาเห็นว่าจำเป็นเราก็ต้องติดตาม เช่น ตลาดเงินที่เกิดผลกระทบแล้ว ก็ต้องเอาผลมาพิจารณาเพิ่มเติมด้วย โดยส่วนตัวเห็นว่า ต้องดูก่อนเพราะไม่อยากไปเจออะไรที่คาดไม่ถึงโดยที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้”

รองนายกฯ กล่าว

ส่วนกรณีการพิจารณาเรื่องการกู้เงินหรือขยายเพดานหนี้สาธารณะเพิ่มเติมเพื่อรองรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า การพิจารณาเพดานหนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องคิด แต่ตอนนี้ยังไม่มีโจทย์ที่ชัดเจน จึงต้องขอประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนว่า จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วถ้าทำแล้วจะเกิดผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การลงทุน และการจ้างงานด้วยหรือไม่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์