นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผย กระทรวงพาณิชย์รับลูกนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ภายหลังแจกเงินหมื่นให้กลุ่มผู้สูงอายุ ตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวนกว่า 3 ล้านราย โดยได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการ ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ร้านสะดวกซื้อ และแพลตฟอร์มออนไลน์ กว่า 200 ราย ใน 3 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ และกลุ่มแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมกว่า 20,000 รายการ ลดราคาสินค้า สูงสุด 86% ระยะเวลา 91 วันเต็ม ตั้งแต่วันนี้ (30 มกราคม) ถึง 30 เมษายน 2568 เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่จะนำเงินไปซื้อสินค้า สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกลง เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพ และยังช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
โดยการดำเนินการโครงการ ‘ชูใจ วัยเก๋า 60+’ เป็นไปเพื่อให้ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินหมื่นเฟสสองไปแล้ว ให้มีการใช้เงินให้ประโยชน์สูงสุด ทำให้เงิน 10,000 บาท เพิ่มมูลค่าเป็น 12,000 13,000 14,000 บาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือคนในทุกระดับ สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกลง เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพ และยังช่วยให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
คาดว่า การจัดโครงการนี้ จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจทั่วประเทศมากกว่า 30,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 91 วันของแคมเปญ และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ถึง 10,000 ล้านบาท พร้อมสั่งกรมการค้าภายในดูแลต้นทุนราคาสินค้า ทลายการผูกขาด-คิดกำไรเกินควรด้วย
สำหรับสินค้าที่จะนำมาลดราคาในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับ อาหารเสริม นมเพื่อสุขภาพ ข้าวน้ำตาลน้อย เครื่องดูดฝุ่น เครื่องปรับอากาศ พรมปูพื้นกันลื่น ที่นอนยางพารา ราวจับทรงตัว เครื่องวัดออกซิเจน หน้ากากอนามัย ไม้เท้า เตียงไฟฟ้า รวมถึงหมวดบริการทางการแพทย์ เช่น ส่วนลดตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก ตรวจคัดกรองหินปูนเกาะหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น

“เศรษฐกิจไทยเรากำลังไปได้ดี ดูได้จากตัวเลขการลงทุน ปี 2567 ที่มีเข้ามาถึง 1.13 ล้านล้านบาท และการส่งออกปี 2567 ก็ขยายตัวถึง 5.4% เมื่อดูโครงสร้าง GDP เรากำลังไปได้ด้วยดี สิ่งที่ขาดอยู่คือการบริโภคและหนี้ ที่ทางกระทรวงการคลังและแบงค์ชาติก็พยายามแก้เรื่องนี้ ถ้าเราสามารถกระตุ้นการบริโภคได้ก็จะทำให้เศรษฐกิจเราดีขึ้น เชื่อว่ารัฐบาลกำลังไปอย่างถูกต้อง”
“ขอยืนยันว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ต้องขอเวลาเพราะคนผอมมาเป็น 10 ปี จะให้อ้วนทันทีไม่ได้ ประเทศต้องการลงทุนการลงทุน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ขอให้ทุกคนมั่นใจและเชื่อใจ สำหรับเรื่องราคาสินค้าจะเข้ามาดูโครงสร้างราคาสินค้าทั้งหมด ว่าสินค้าไหนที่แพงเกินไป คิดราคาโขกประชาชน เราจะลดราคา เข้ามาดูโครงสร้างราคา ตอนนี้มีสินค้าควบคุมแล้ว 57 รายการ จะเพิ่มสินค้าควบคุมอีก 2 รายการ คือ เครื่องดูดฝุ่น กับเครื่องฟอกอากาศ คาดว่าจะเสร็จภายในหนึ่งเดือน ซึ่งเรื่องอะไรที่เป็นปัญหาในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์เราพร้อมทำงานดูแลพี่น้องประชาชนเต็มที่ ”
นายพิชัย กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงพาณิชย์ได้มีกำหนดการออกบูธจำหน่ายสินค้า ณ ชุมชนเคหะร่มเกล้า และจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพมหานคร และในส่วนภูมิภาคตลอดระยะเวลาโครงการ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ถึง มีนาคม ได้กำหนดแผนจัดกิจกรรมในภาคเหนือที่ลำพูน และภาคใต้ที่ภูเก็ต ซึ่งจะนำสินค้าที่เป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้สูงวัย เป็นสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด เพื่อให้กลุ่มวัยเก๋าได้เลือกซื้อสินค้าตามความต้องการด้วย
