นายกฯ รับสมุดปกขาว พร้อมปาฐกถาในงานหอการค้าทั่วประเทศ

20 พ.ย. 2566 - 12:14

  • นายกฯ รับสมุดปกขาวจากหอการค้าฯ โดยประกอบด้วยข้อเสนอ 2 ส่วนสำคัญ และ 4 ประเด็นสำคัญ

  • นายกฯ ปาฐกถาพิเศษเรื่อง The time to act is now พลิกวิกฤต ฟื้นเศรษฐกิจไทย

  • โดยมีนโยบายหักที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย เช่น การดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามา, การทำ FTA, การพัฒนาเมืองรอง แก้หนี้นอกระบบ และอื่นๆ

Prime-Minister-Thai-Chamber-Book-SPACEBAR-Hero.jpg

19 พฤศจิกายน 2566 เศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับสมุดปกขาวจาก สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยั่งยืน  ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41โดยมีข้อเสนอภาคเอกชน 2 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย

  1. ข้อเสนอเพื่อการเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน (Transform) ไปสู่การแสวงหาโอกาสและรูปแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสมัยใหม่ในอนาคต
  2. ข้อเสนอยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของหอการค้า 5 ภาค ที่ได้รวบรวมประเด็นเชิงพื้นที่จากหอการค้าจังหวัดและภาคเอกชนทั่วประเทศ

สำหรับประเด็นสำคัญในสมุดปกขาว 4 ประเด็น ได้แก่

  1. ประเทศไทยต้องยกระดับ Innovation Digital และ Technology พร้อมยกระดับมาตรการ Talent immigration policy
  2. นโยบายเพิ่มจำนวนประชากร และพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพ พร้อมเป็น Global Citizen
  3. สนับสนุนเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้ธุรกิจ SMEs ฟื้นตัว ควบคู่ไปกับแก้ไขปัญหาหนี้ SMEs สร้างโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเป็นระบบ
  4. ผลักดันโครงการพัฒนาเมืองรอง 10 จังหวัด เป็นเมืองหลัก

หลังจากนั้นจึงขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง The time to act is now พลิกวิกฤต ฟื้นเศรษฐกิจไทย ว่า ‘เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทางรัฐบาลมองว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทย เร่งด่วน จำเป็น วิกฤต จึงจำเป็นที่ต้องเร่งทำตามนโยบายต่างๆ เศรษฐกิจขอองไทยใน 10 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวต่ำกว่า 2% พักหนี้ไป 13 หนให้แก่เกษตรกร ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทางออก จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในชุดนี้ที่ต้องการจะแก้ไขปัญหา โดยใน 2 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น พักหนี้เกษตรกร ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน ยกเว้นวีซ่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว และอื่นๆ

จากการเดินทางไปเยี่ยมเยียนประเทศต่างๆ นายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยยังเป็นที่ต้องการในเวทีโลก ทั้งในด้านการลงทุน และ Geopolitics การเดินทางไปพบปะหลากหลายประเทศเป็นการเข้าไปพูดคุยและเชิญชวนให้ประเทศต่างๆหันกลับมาสนใจประเทศไทยมากขึ้น มีมาตรการสนับสนุนทางด้านภาษี รวมถึงมาตรการอื่นๆที่เป็นตัวดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ แต่สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขคือ FTA โดยช่วงเวลาที่ผ่านมามีการเจรจาเรื่องนี้น้อยมาก โดย FTA จะเป็นวาระหนึ่งที่สำคัญในรัฐบาลนี้และจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง

นอกจากนี้จะมีการพัฒนาเมืองรอง นักลงทุนต่างชาติมีความสนใจในจังหวัดอื่นนอกเหนือจากเมืองหลักอย่าง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต เพราะเชื่อว่าเมืองรองเหล่านี้มีศักยภาพอีกมาก ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งการจะพัฒนาได้นั้น ต้องเริ่มจากการพัฒนาในเรื่องของ Infrastructure เช่น การสร้างและปรับปรุงสนามบิน และวางแผนผลักดันการท่องเที่ยวให้ไปถึงเมืองรองอื่นๆมากขึ้น โดยการจะทำให้สำเร็จต้องร่วมมือกันระหว่างทุกภาคส่วน การพัฒนาเมืองรองเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลชุดนี้และจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แผนงานต่อไปในช่วงกลางเดือนหน้าจะเดินทางไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมประชุมอาเซียนเจแปน และต้นปีหน้าจะไปยุโรป เพื่อขยายการค้า การลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น ประเทศต่างๆที่ได้พบมีมุมมองเชิงบวกต่อประเทศไทย เพราะไทยมีความพร้อมเรื่องคมนาคม โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เรื่องพลังงานสะอาด ซึ่งเรื่องสิทธิประโยชน์ภาษีอย่างเดียวนั้นไม่พอ และพลังงานหมุนเวียนเป็นเรื่องสำคัญมากต่อนักลงทุนต่างชาติ

รัฐบาลเร่งแก้ไข หนี้นอกระบบ ที่กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จะมีการออกนโยบายให้อำเภอและผู้กำกับ ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบในการนำเจ้าหนี้และลูกหนี้มาไกล่เกลี่ยร่วมกัน อย่างที่ทราบกันดีว่าดอกเบี้ยหนี้นอกระบบนั้นสูงมาก มีทั้งแบบรายวัน รายอาทิตย์ รายเดือน หลากหลายรูปแบบ ดังนั้นการใช้หนี้นอกระบบให้หมดจึงยากมาก

การคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดต้องถูกยกเลิก เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยร่วมมือกับกระทวงการคลัง กระทรวงความมั่นคง และฝ่ายการปกครอง หนี้นอกระบบนั้นเป็นต้นเหตุของอาชญกรรม ฉุดรั้งประเทศไทยให้ไม่สามารถเติบโตได้ และเป็นความขมขื่นที่ประชาชนต้องแบกรับ ในส่วนของหนี้ในระบบจะมีการประกาศมาตรการที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคม เมื่อสิ่งเหล่านี้ชัดเจนขึ้นจะเป็นความหวังในการยกระดับชีวิตของประชาชน 

ในเรื่องของเกษตรกร แม้จะมีการพักหนี้ไปหลายรอบในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ก็ดูจะไม่มีความหวัง รัฐบาลจึงจะผลักดันการเพิ่มรายได้เกษตรกรจากการเปิดการค้ากับต่างชาติ รวมถึงปศุสัตว์ก็เป็นที่ต้องการอย่างมากในต่างประเทศ ดังนั้นเชื่อว่าหากมีการเจรจา FTA จะทำให้สามารถลดอุปสรรคทางการค้าและส่งออกสินค้าได้มากขึ้น’

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์