แม้ราคาทองคำปรับฐานกว่า 100 เหรียญ แต่ยังไม่ใช่จังหวะสะสม – ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหุ้นจีนยังน่าจับตาในภาวะตลาดผันผวน
ชาตรี โรจนอาภา CFA, FRM หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB CIO) ให้สัมภาษณ์ในรายการ FIRST UP ทางเพจ SPACEBAR ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและทิศทางการลงทุนในช่วงไตรมาสสองของปี 2568 โดยชี้ว่า แม้ราคาทองคำจะปรับฐานลงมาจากระดับสูงสุดที่ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่ใช่ “จุดเข้าซื้อที่แท้จริง” พร้อมแนะนักลงทุนติดตามความชัดเจนจากปัจจัยมหภาค ทั้งดอลลาร์สหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
“ทองคำยังคงอยู่ในขาขึ้นระยะยาว แต่ตอนนี้เป็นช่วงปรับฐาน และมีความผันผวนจากดอลลาร์แข็งค่ากลับขึ้นมา จึงยังเร็วเกินไปที่จะเข้าซื้อเพิ่ม” หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุ พร้อมเสริมว่าปัจจัยบวกที่เคยหนุนราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลด้านสงคราม หรือดอลลาร์อ่อนค่า เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่แรงเทขายเพื่อทำกำไรเริ่มเข้ามาในตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า หากการเจรจาการค้ากลับเข้าสู่ภาวะตึงเครียด หรือดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าจริง ทองคำจะกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าสนใจอีกครั้ง
บอนด์สหรัฐฯ ยังน่าสะสม – เชื่อดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง
ในด้านอื่นของการลงทุน หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ แนะนำให้นักลงทุนจับตาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Bonds) ซึ่งยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยชี้ว่า “ถ้าหากเศรษฐกิจโลกชะลอจริง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจต้องลดดอกเบี้ยลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพันธบัตรในแง่ของราคาที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น”
นอกจากนี้ นักลงทุนควรพิจารณาเลือกพันธบัตรในสหรัฐฯ มากกว่าประเทศอื่น เพราะอัตราผลตอบแทน (yield) ของประเทศหลัก ๆ เช่น ยุโรป เยอรมนี หรือไทย ปรับตัวลงมาแล้ว ทำให้อัพไซด์ในอนาคตค่อนข้างจำกัด
หุ้นจีนเริ่มฟื้นตัว – ยังเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองขาด
ด้านตลาดหุ้นจีน หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่าเริ่มมีสัญญาณบวก แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากการส่งออกและปัญหาภายในประเทศ โดยรัฐบาลจีนยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคในประเทศ พร้อมรักษาเสถียรภาพตลาดการเงินในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
“แม้ความไม่แน่นอนทางการค้าจะยังอยู่ แต่จีนสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด นักลงทุนที่วางพอร์ตระยะกลางถึงยาวควรจับตาโอกาสนี้” ชาตรีกล่าวเสริม
จับจังหวะอย่างมีสติ – กระจายการลงทุนยังสำคัญ
หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในภาวะที่ตลาดยังคงผันผวนจากปัจจัยภายนอก การกระจายการลงทุน (Asset Allocation) ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญ โดยเฉพาะการเลือกเข้าสินทรัพย์ที่ยังมีอัพไซด์ ทั้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหุ้นจีน พร้อมแนะให้จับตาทิศทางดอลลาร์สหรัฐฯ และความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด
