ฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยรายชื่อ “กลุ่มหุ้น Dividend Universe 2025” ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกเข้มงวดสำหรับการลงทุนในหุ้นปันผล โดยเน้นบริษัทที่มีผลประกอบการดี กำไรสม่ำเสมอ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกต่อเนื่อง 5 ปี และมีคะแนนบรรษัทภิบาลระดับ ‘ดี’ ขึ้นไป ซึ่งในปีนี้มี 150 บริษัทจาก 845 บริษัทจดทะเบียน ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก เพิ่มขึ้นจาก 141 บริษัทในปีก่อน
บริษัทเหล่านี้ถูกจำแนกตามช่วงเวลาการประเมิน 3 ปี, 5 ปี และ 7 ปี โดยในกลุ่มข้อมูล 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลายอดนิยมของนักลงทุน พบว่า มี 129 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และ 21 บริษัทจดทะเบียนใน mai (ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ) มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย อยู่ที่ 4.20% ขณะที่ตลาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 2.89% โดย 48 บริษัท จากทั้งหมด 150 บริษัท มี Dividend Yield เฉลี่ย 5 ปี สูงกว่า 5% ต่อปี
และบริษัทจดทะเบียนในอยู่ในกลุ่มหุ้น Dividend Universe ชุด 5 ปี ที่มี Dividend Yield เฉลี่ย 5 ปี สูงสุด 15 อันดับแรก มี Dividend yield เฉลี่ย 5 ปี อยู่ในช่วง 6.82% ถึง 14.27% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 8.33%

จุดเด่นของกลุ่มหุ้น Dividend Universe ปี 2025
1. ผลตอบแทนเงินปันผลโดดเด่นกว่าตลาด
• บริษัทในกลุ่ม Dividend Universe ชุด 5 ปี ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ย 4.20% ต่อปี เทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดที่ 2.89% และบริษัทนอกกลุ่มที่เฉลี่ยเพียง 2.13%
• 48 บริษัท มี Dividend Yield สูงเกิน 5% ต่อปี
• 15 บริษัทอันดับสูงสุด มี Dividend Yield เฉลี่ย 5 ปีในช่วง 6.82% – 14.27%, เฉลี่ยรวมอยู่ที่ 8.33%
2. หุ้นกลุ่มบริการ-อาหาร-เทคโนโลยี ผ่านเกณฑ์มากสุด
• กลุ่ม ธุรกิจบริการ ติดอันดับมากที่สุด 55 บริษัท (คิดเป็น 55% ของกลุ่มบริการทั้งหมด)
• รองลงมา ได้แก่ กลุ่ม เกษตรและอาหาร (22 บริษัท) และกลุ่ม เทคโนโลยี
• เมื่อนับสัดส่วนต่อจำนวนบริษัททั้งหมดในกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่าทั้ง 3 กลุ่มนี้มีสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอื่น
3. หลายบริษัทติดดัชนีคุณภาพสูงของ ตลท.
• บริษัทใน Dividend Universe มักเป็นบริษัทขนาดกลาง-เล็กที่ ไม่ได้อยู่ใน SET50 หรือ SETHD
• อย่างไรก็ตาม มีสัดส่วนมากในดัชนี SETESG (หุ้นยั่งยืน) และใน SETCLMV Index โดยบริษัทใน SETCLMV ทั้ง 30 แห่ง ผ่านเกณฑ์ Dividend Universe ทุกแห่ง
สำหรับหุ้น ‘Dividend Universe 2025’ นี้ ถือเป็นเป็นเครื่องมือชั้นดีที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถระบุหุ้นคุณภาพสูงที่ให้ผลตอบแทนดีจากเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสะท้อนถึงการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และมีความมั่นคงทางการเงิน เหมาะกับผู้ที่มองหาหุ้นปันผลเพื่อลงทุนอย่างยั่งยืนในระยะยาว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรใช้เป็นเพียง “เครื่องมือประกอบการคัดเลือก” โดยนักลงทุนยังจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวะอุตสาหกรรม สถานะหนี้ กำไรสุทธิ และแนวโน้มธุรกิจประกอบด้วย